ย้ายบ้านแล้วครับ

วันนี้ Thaidham for life ย้ายบ้านแล้วครับ ขอบคุณทุกท่านที่เคยแวะเวียนเข้ามา หรือขาจรก็ตาม ท่านสามารถรับข้อมูลเพื่อสุขภาพได้ที่บ้านใหม่ www.thaidhamfamily.com ขอขอบคุณทุกท่ามา ณ.ที่นี้ครับ

หลอดเลือดหัวใจตีบ-ตันกับโภชนบำบัด


การป้องกันและดูแลสุขภาพด้วยการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เหมาะสม เริ่มต้นด้วยการเลิกทำร้ายผิวในของหลอดเลือด ด้วยการงดสูบบุหรี่และ หลีกเลี่ยงสูดควันบุหรี่ของคนอื่น ลดหรืองดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เลือกรับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะ อาทิ ผักสด ผลไม้สดหลายรสและหลากสี เลี่ยงอาหารหวาน มัน เค็ม อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง รับประทานอาหารแต่พอดีกับแคลอรีที่ใช้ในแต่ละวันเพื่อป้องกันการสะสมไขมันที่ทำให้อ้วน มีการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างเหมาะสม ไม่นั่งทำงานอยู่กับโต๊ะนานเกินไป หมั่นหาเวลาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ผ่อนคลายความเครียด รักษาความดันโลหิต ควบคุมระดับไขมันในเลือด และเบาหวาน ที่สำคัญควรตรวจสุขภาพเป็นประจำ

ผศ.ดร.เรวดี จงสุวัฒน์ ชมรมโภชนวิทยามหิดล เปิดเผยว่า ปัจจุบันผู้บริโภคมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับผลดีผลเสียของการบริโภคน้ำมันแต่ละชนิดว่าน้ำมันชนิดใดดีต่อร่างกาย ชนิดใดไม่เหมาะสมต่อผู้ที่เป็นโรคหัวใจ เบาหวาน มะเร็ง เป็นต้น หลายคนจึงเริ่มหลีกเลี่ยงน้ำมันไม่ดีหันมาใช้น้ำมันที่มีสัดส่วนกรดไขมันชนิดดีมากขึ้น ในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อสุขภาพที่ดี เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันเมล็ดชา น้ำมันคาโนล่า เป็นต้น ซึ่งพบว่าจะมีกรดไขมันดีคือชนิดไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียวสูง กรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว มีผลต่อการเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) และลด คอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) ทำให้ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจ กรดไขมันโอเมก้า 3 และ 6 เป็นกรดไขมันจำเป็น ซึ่งหมายถึงกรดไขมันที่ร่างกายสร้างไม่ได้ต้องได้รับจากอาหาร กรดไขมันโอเมก้า 3 และ 6 ที่ได้จากน้ำมันทานตะวัน ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดและเป็นสารตั้งต้นในการสร้าง EPA และ DHA ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด มีส่วนช่วยให้สมองและดวงตาทำงานได้ดี

ปัจจุบันนักวิจัยพบว่าร่างกายของคนเราควรบริโภคกรดไขมันชนิดโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 ในปริมาณที่พอเหมาะและในสัดส่วนที่สมดุลจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ร่างกาย โดยที่สถาบันแพทย์ University of Maryland แนะนำ ให้บริโภค 6 : โอเมก้า 3 ในสัดส่วน 4 : 1 เพื่อความสมดุลของร่างกายและช่วยป้องกันภาวะผิดปกติของร่างกาย ธรรมชาติไม่สามารถสร้างน้ำมันที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 และ 6 ในสัดส่วนที่เหมาะสม จึงเป็นทางเลือกใหม่ในการบริโภคน้ำมันชนิดใหม่ที่เกิดจากการผสมผสาน ระหว่าง “น้ำมันคาโนล่าผสมน้ำมันทานตะวัน” ซึ่งน้ำมัน 2 ชนิดนี้เป็นที่ยอมรับในกลุ่มผู้รักสุขภาพว่าเป็นน้ำมันที่ดีมีคุณค่าต่อสุขภาพ โดยนำ

มาผสมในสัดส่วนน้ำมันคาโนล่า 4 ส่วนต่อน้ำมันทานตะวัน 1 ส่วน ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ผ่านการค้นคว้าแล้วว่าสมดุลและเหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย เพื่อให้ได้รับกรดไขมันโอเมก้า 3 และ 6 ในสัดส่วนที่เหมาะสมกับการบริโภค

สำหรับน้ำมันคาโนล่าผสมน้ำมันทานตะวัน ต้องผ่านการผสมผสานในสัดส่วนที่เหมาะสม คือ 4 : 1 จึงจะได้เป็นน้ำมันผสมที่มีความสมดุลของกรดไขมันโอเมก้า 3 และ 6 ที่เหมาะสมและดีต่อสุขภาพ พร้อมกันนี้น้ำมันผสมของน้ำมันคาโนล่าและน้ำมันทานตะวันในสัดส่วนนี้ยังมีกรดไขมันอิ่มตัวและกรดไขมันทรานซ์ต่ำ จึงไม่ส่งผลให้ระดับคอเลสเตอ รอลชนิดไม่ดี (LDL) เพิ่ม ขึ้น นอกจากนี้ Blended oil ที่เกิดจากการผสมของน้ำมันคาโนล่าและน้ำมันทานตะวันในสัดส่วนนี้ยังมีโอเมก้า 9 และวิตามินอีสูง มีจุดเดือดสูงถึง 230 องศา จึงสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายประเภท ทั้ง ผัด ทอด ย่าง หมัก ทำน้ำสลัด เป็นต้น การเลือกบริโภคน้ำมันที่ดีจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายต่าง ๆ ซึ่งน้ำมันชนิดนี้มี โอเมก้า 3 และ 6 ในสัดส่วนที่สมดุลและเหมาะสมจึงจะเกิดประโยชน์สูงสุดต่อร่างกายและยังจะช่วยส่งเสริมสุขภาพได้ จึงน่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้บริโภคในยุคนี้ การรู้ทันโรคร้าย หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง และปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โรคร้ายไหน ๆ ก็มิอาจคุกคามท่านได้

ข้อมูลจาก ดร.อภิสิทธิ์ ฉัตรทนานนท์ ประธานมูลนิธิคุณแม่คุณภาพ.

นายแพทย์สุรพงศ์ อำพันวงษ์


ริดสีดวงทวารหนัก


อาการผิดปกติทางทวารหนักที่พบได้บ่อยที่สุดเรื่องหนึ่งคือ การถ่ายเป็นเลือดสด มีเลือดออกหลังถ่าย หรือ ขณะทำความสะอาด ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าเป็นโรคริดสีดวงทวารหนัก ทั้งที่ในความเป็นจริงอาการถ่ายเป็นเลือดอาจเกิดได้จากสาเหตุอื่นอีก เช่น โรคแผลปริปากทวารหนัก โรคติดเชื้อของลำไส้ใหญ่และทวารหนัก โรคลำไส้เป็นกระเปาะ และโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก เป็นต้น

ริดสีดวงทวารหนัก (hemorrhoid, pile) เกิดจากเยื่อบุและกระจุกเส้นเลือดปกติบริเวณ ใกล้รูทวารหนักซึ่งทำหน้าที่เป็นหมอนกันกระแทกอยู่ภายในเกิดการขยายตัวและหย่อนยาน ทำให้เนื้อเยื่อดังกล่าวเกิดการเลื่อนที่ลงล่างออกมาสู่บริเวณปากทวารหนัก อาจร่วมกับมีการฉีกขาดของเส้นเลือด ทำให้เกิดโรคริดสีดวงทวารหนัก

อาการของโรคริดสีดวงทวารหนัก มักจะมีอาการถ่ายเป็นเลือดสด โดยไม่มีอาการปวด อาจพบก้อนยื่นออกมาขณะถ่าย หรือ มีก้อนที่ปากทวารหนักอยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าเกิดมีลิ่มเลือดอุดตันในริดสีดวงทวาร จะทำให้มีอาการปวดมาก สาเหตุที่ทำให้เกิดริดสีดวงทวารหนักยังไม่ทราบแน่ชัด มีปัจจัยหลายอย่างที่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นริดสีดวงทวารหนัก ได้แก่ ท้องผูก เบ่งมาก นั่งส้วมนาน โดยเฉพาะผู้ที่ชอบอ่านหนังสือขณะเข้าห้องน้ำ หรือคนที่ท้องเสียถ่ายบ่อย รวมถึงผู้ที่มีประวัติมีคนในครอบครัวเป็นก็จะมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้สูงขึ้น

อุบัติการณ์ของโรคนี้ สามารถประเมินได้ยาก เนื่องจากผู้ป่วยส่วนใหญ่อาการจะไม่รุนแรง และผู้ป่วยบางคนที่มีอาการมากแล้ว แต่มีความอายหรือกลัวที่จะมาพบแพทย์ จึงทำให้สถิติผู้ป่วยโรคนี้ต่ำกว่าความเป็นจริงมาก มีบางรายงานในต่างประเทศพบว่าสามารถพบโรคนี้มากถึง 86% ตลอดช่วงชีวิตของประชากร จึงอาจกล่าวได้ว่า โรคริดสีดวงทวารหนักเป็นโรคที่มีความชุกสูง มากโรคหนึ่ง

ทางการแพทย์มักแบ่งริดสีดวงทวารหนักออกเป็น 2 ชนิดคือ ริดสีดวงภายใน (internal hemorrhoid) และ ริดสีดวงภายนอก (external hemorrhoid)

ริดสีดวงทวารหนักภายใน คือ ริดสีดวงซึ่งเกิดในช่องทวารเหนือรอยต่อของเยื่อบุของลำไส้ตรงกับผิวหนังของช่องทวารหนัก ซึ่งเยื่อบุของริดสีดวงชนิดนี้จะมีประสาทรับความเจ็บปวดน้อยมาก นิยมแบ่งความรุนแรงของริดสีดวงทวารหนักภายในออกเป็น 4 ระยะ คือ

ระยะที่ 1 มีเพียงอาการถ่ายเป็นเลือด โดยไม่มีก้อนโผล่จากปากทวารหนัก

ระยะที่ 2 มีก้อนโผล่ออกมาขณะถ่ายและกลับเข้าในปากทวารได้เองหลังถ่ายเสร็จ

ระยะที่ 3 ก้อนที่โผล่ออกมาไม่สามารถกลับเข้าไปได้เอง ต้องใช้นิ้วช่วยดัน

ระยะที่ 4 มีก้อนโผล่ออกมาตลอดเวลาหรือดันกลับเข้าไปแล้วก็ยังออกมาอีก

การรักษาทำได้หลายวิธี

วิธีที่ 1 วิธีการรักษาแบบประคับประ คอง ทำได้โดยการสร้างสุขนิสัยที่ดี ขับถ่ายให้ เป็นเวลา ไม่ควรนั่งส้วมนาน รับประทานผักผลไม้และดื่มน้ำให้เพียงพอ การรับประทานยาเพิ่มกากใยอาหารเพื่อให้ถ่ายง่ายขึ้น

วิธีที่ 2 การฉีดยาบริเวณรอบหัวริดสีดวง (sclerosing injection) เพื่อให้เกิดพังผืดรัดหัวริดสีดวงและฝ่อไปเองภายหลัง ข้อดีคือไม่เจ็บ ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล ฉีดยาเสร็จกลับบ้านได้เลย ได้ผลดีในริดสีดวงระยะที่ 1 และ 2 แต่ในริดสีดวงระยะที่ 3 ได้ผลไม่ค่อยดีนัก

วิธีที่ 3 การรัดยาง (rubber band ligation) วิธีการคือ แพทย์จะใช้เครื่องมือจับเหนือตัวริดสีดวงและยิงห่วงยางขนาดเล็ก เพื่อรัดเหนือหัวริดสีดวงซึ่ง เป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดเข้ามาเลี้ยง หลังจากรัดยาง เนื้อเยื่อที่ถูกรัดจะค่อย ๆ ขาดเลือด ประมาณ 5-7 วันหัวริดสีดวงก็จะหลุดออกมาเอง ริดสีดวงก็จะถูกรั้งไว้ภายในโดยพังผืดที่เกิดตามมา หลังจากรัดยางผู้ป่วยจะ มีเพียงอาการปวดถ่วงในทวารหนักเล็กน้อย น้อยรายที่จะมีอาการปวดมาก ที่สำคัญเป็นวิธีที่ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล วิธีนี้เหมาะกับริดสีดวงระยะที่ 2 และ 3 หรือระยะที่ 4 บางราย

วิธีที่ 4 การผ่าตัดหัวริดสีดวงออก เหมาะกับริดสีดวงระยะที่ 4 หรือระยะที่ 3 บางรายที่รักษาด้วยวิธีฉีดยาหรือรัดยางแล้วไม่ได้ผล ริดสีดวงทวารหนักภายในร่วมกับภายนอก และในกรณีที่เกิดโรคแทรกซ้อน เช่น ริดสีดวงอักเสบซึ่งทำให้เจ็บปวดรุนแรงมาก หรือมีเลือดออกมาก

การผ่าตัดทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับลักษณะ ของริดสีดวงทวาร ความเหมาะสมให้กับผู้ป่วย แต่ละคน และความชำนาญของศัลยแพทย์ ศัลย แพทย์ลำไส้ใหญ่และทวารหนักมักจะตัดริดสีดวงทวารออกและเย็บปิดแผลผ่าตัดโดยการใช้ยาชาเฉพาะที่ฉีดรอบปากทวารหนัก ไม่จำเป็นต้องฉีดยาชาเข้าไขสันหลังหรือดมยาสลบ ภายหลังผ่าตัดผู้ป่วยสามารถกลับบ้านได้ภายใน 1 วัน และ อาการปวดแผลมักจะไม่รุนแรง ส่วนการดูแลแผลผ่าตัดก็ไม่ยุ่งยาก และสามารถกลับเข้าทำงานตามปกติได้เร็ว

มีการนำเครื่องมือผ่าตัดด้วยแสงเลเซอร์มาใช้ในการผ่าตัดริดสีดวงทวารหนักแทนมีดผ่าตัดธรรมดาในระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา พบว่า สามารถห้ามเลือดได้ดี อาการปวดแผลผ่าตัดและระยะเวลาการหายน้อยกว่าการผ่าตัดธรรมดา แต่มีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นมาก จึงไม่ได้รับความนิยมเท่า ที่ควร

การผ่าตัดริดสีดวงด้วยเครื่องมือตัดและเย็บลำไส้อัตโนมัติ (staples hemorrhoidopexy) เป็นการผ่าตัดวิธีใหม่ที่เริ่มมีการทำกันมากขึ้น เหมาะกับริดสีดวงภายในที่ปลิ้นออกมาด้านนอกและสามารถดันกลับเข้าด้านในได้หมด ข้อดีคือใช้เวลาผ่าตัดสั้น อาการปวดหลังผ่าตัดไม่รุนแรง ข้อเสียคือเครื่องมือมีราคาค่อนข้างแพง อัตราการกลับเป็นใหม่สูงกว่าการผ่าตัดธรรมดา และไม่สามารถกำจัดริดสีดวงภายนอกที่เป็นมาก ๆ ได้

สำหรับริดสีดวงภายนอก โดยทั่วไปเป็นเพียงติ่งเนื้อที่อยู่ภายนอกปากทวารหนักและมักจะไม่สร้างปัญหา อาจมีเพียงความรำคาญ ทำความสะอาดยากหรือมีอาการคัน โดยทั่วไปไม่จำเป็นต้องรักษา ยกเว้นจะก่อให้เกิดความรำคาญมากหรือเกิดการปวดบวมจากการมีลิ่มเลือดในหัวริดสีดวง การรักษามีเพียงวิธีเดียวคือ การผ่าตัดหัวริดสีดวงออก

การป้องกันไม่ให้เป็นริดสีดวงทวารหนัก ทำได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับถ่ายโดยฝึกขับถ่ายให้เป็นเวลา ไม่นั่งส้วมนาน รับประทานอาหารที่มีกากใยอาหารสูง เช่น ผักและผลไม้ดื่มน้ำให้เพียงพอ และที่สำคัญเมื่อมีอาการผิดปกติ เกี่ยวกับการขับถ่ายควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางที่ชำนาญเพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

ข้อมูลจาก นายแพทย์นพดล นฤปิติ ศัลยแพทย์ลำไส้ใหญ่และทวารหนัก โรงพยาบาล พญาไท 3.

นายแพทย์สุรพงศ์ อำพันวง


โปรโมชั่น 6 สิงหาคม 2552 - 5 ตุลาคม 2552

แอลเจน (Algen)

แอลเจน (Algen)
แพทย์ทางเลือกสำหรับหอบหืด - ภูมิแพ้

ขนาดบรรจุ
: 30 แคปซูล

ราคาปกติ 1,250 บาท
ราคาสมาชิก 980 บาท
ข้อมูลผลิตภัณฑ์ แอลเจน (Algen)

Hair Growth Lotion

แฮร์ โกล์ว โลชั่น (สูตรพิเศษ)
โลชั่นบำรุงรากผม สำหรับคนที่ผมร่วง ผมบาง

ขนาดบรรจุ : 10 มล.

ราคาขาย : 750 บาท
ราคาสมาชิก : 600 บาท

รายละเอียดเพิ่มเติม

ศูนย์ย่อย ไทยธรรม - พระประแดง

ศูนย์ย่อย ไทยธรรม - พระประแดง
ผู้ดูแลศูนย์ คุณ สายสุณี ศิริทอง (บอล)
549/28 ม.3 ต.บางโปรง อ.เมือง สมุทรปราการ 10270
Tel.083 - 0128907

***ท่านสามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้า และสั่งซื้อสินค้า
ได้ที่ คุณ สายสุณี ศิริทอง (บอล)
Tel 083 - 0128907