ย้ายบ้านแล้วครับ

วันนี้ Thaidham for life ย้ายบ้านแล้วครับ ขอบคุณทุกท่านที่เคยแวะเวียนเข้ามา หรือขาจรก็ตาม ท่านสามารถรับข้อมูลเพื่อสุขภาพได้ที่บ้านใหม่ www.thaidhamfamily.com ขอขอบคุณทุกท่ามา ณ.ที่นี้ครับ

หลอดเลือดหัวใจตีบ-ตันกับโภชนบำบัด


การป้องกันและดูแลสุขภาพด้วยการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เหมาะสม เริ่มต้นด้วยการเลิกทำร้ายผิวในของหลอดเลือด ด้วยการงดสูบบุหรี่และ หลีกเลี่ยงสูดควันบุหรี่ของคนอื่น ลดหรืองดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เลือกรับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะ อาทิ ผักสด ผลไม้สดหลายรสและหลากสี เลี่ยงอาหารหวาน มัน เค็ม อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง รับประทานอาหารแต่พอดีกับแคลอรีที่ใช้ในแต่ละวันเพื่อป้องกันการสะสมไขมันที่ทำให้อ้วน มีการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างเหมาะสม ไม่นั่งทำงานอยู่กับโต๊ะนานเกินไป หมั่นหาเวลาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ผ่อนคลายความเครียด รักษาความดันโลหิต ควบคุมระดับไขมันในเลือด และเบาหวาน ที่สำคัญควรตรวจสุขภาพเป็นประจำ

ผศ.ดร.เรวดี จงสุวัฒน์ ชมรมโภชนวิทยามหิดล เปิดเผยว่า ปัจจุบันผู้บริโภคมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับผลดีผลเสียของการบริโภคน้ำมันแต่ละชนิดว่าน้ำมันชนิดใดดีต่อร่างกาย ชนิดใดไม่เหมาะสมต่อผู้ที่เป็นโรคหัวใจ เบาหวาน มะเร็ง เป็นต้น หลายคนจึงเริ่มหลีกเลี่ยงน้ำมันไม่ดีหันมาใช้น้ำมันที่มีสัดส่วนกรดไขมันชนิดดีมากขึ้น ในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อสุขภาพที่ดี เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันเมล็ดชา น้ำมันคาโนล่า เป็นต้น ซึ่งพบว่าจะมีกรดไขมันดีคือชนิดไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียวสูง กรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว มีผลต่อการเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) และลด คอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) ทำให้ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจ กรดไขมันโอเมก้า 3 และ 6 เป็นกรดไขมันจำเป็น ซึ่งหมายถึงกรดไขมันที่ร่างกายสร้างไม่ได้ต้องได้รับจากอาหาร กรดไขมันโอเมก้า 3 และ 6 ที่ได้จากน้ำมันทานตะวัน ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดและเป็นสารตั้งต้นในการสร้าง EPA และ DHA ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด มีส่วนช่วยให้สมองและดวงตาทำงานได้ดี

ปัจจุบันนักวิจัยพบว่าร่างกายของคนเราควรบริโภคกรดไขมันชนิดโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 ในปริมาณที่พอเหมาะและในสัดส่วนที่สมดุลจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ร่างกาย โดยที่สถาบันแพทย์ University of Maryland แนะนำ ให้บริโภค 6 : โอเมก้า 3 ในสัดส่วน 4 : 1 เพื่อความสมดุลของร่างกายและช่วยป้องกันภาวะผิดปกติของร่างกาย ธรรมชาติไม่สามารถสร้างน้ำมันที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 และ 6 ในสัดส่วนที่เหมาะสม จึงเป็นทางเลือกใหม่ในการบริโภคน้ำมันชนิดใหม่ที่เกิดจากการผสมผสาน ระหว่าง “น้ำมันคาโนล่าผสมน้ำมันทานตะวัน” ซึ่งน้ำมัน 2 ชนิดนี้เป็นที่ยอมรับในกลุ่มผู้รักสุขภาพว่าเป็นน้ำมันที่ดีมีคุณค่าต่อสุขภาพ โดยนำ

มาผสมในสัดส่วนน้ำมันคาโนล่า 4 ส่วนต่อน้ำมันทานตะวัน 1 ส่วน ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ผ่านการค้นคว้าแล้วว่าสมดุลและเหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย เพื่อให้ได้รับกรดไขมันโอเมก้า 3 และ 6 ในสัดส่วนที่เหมาะสมกับการบริโภค

สำหรับน้ำมันคาโนล่าผสมน้ำมันทานตะวัน ต้องผ่านการผสมผสานในสัดส่วนที่เหมาะสม คือ 4 : 1 จึงจะได้เป็นน้ำมันผสมที่มีความสมดุลของกรดไขมันโอเมก้า 3 และ 6 ที่เหมาะสมและดีต่อสุขภาพ พร้อมกันนี้น้ำมันผสมของน้ำมันคาโนล่าและน้ำมันทานตะวันในสัดส่วนนี้ยังมีกรดไขมันอิ่มตัวและกรดไขมันทรานซ์ต่ำ จึงไม่ส่งผลให้ระดับคอเลสเตอ รอลชนิดไม่ดี (LDL) เพิ่ม ขึ้น นอกจากนี้ Blended oil ที่เกิดจากการผสมของน้ำมันคาโนล่าและน้ำมันทานตะวันในสัดส่วนนี้ยังมีโอเมก้า 9 และวิตามินอีสูง มีจุดเดือดสูงถึง 230 องศา จึงสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายประเภท ทั้ง ผัด ทอด ย่าง หมัก ทำน้ำสลัด เป็นต้น การเลือกบริโภคน้ำมันที่ดีจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายต่าง ๆ ซึ่งน้ำมันชนิดนี้มี โอเมก้า 3 และ 6 ในสัดส่วนที่สมดุลและเหมาะสมจึงจะเกิดประโยชน์สูงสุดต่อร่างกายและยังจะช่วยส่งเสริมสุขภาพได้ จึงน่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้บริโภคในยุคนี้ การรู้ทันโรคร้าย หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง และปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โรคร้ายไหน ๆ ก็มิอาจคุกคามท่านได้

ข้อมูลจาก ดร.อภิสิทธิ์ ฉัตรทนานนท์ ประธานมูลนิธิคุณแม่คุณภาพ.

นายแพทย์สุรพงศ์ อำพันวงษ์


ริดสีดวงทวารหนัก


อาการผิดปกติทางทวารหนักที่พบได้บ่อยที่สุดเรื่องหนึ่งคือ การถ่ายเป็นเลือดสด มีเลือดออกหลังถ่าย หรือ ขณะทำความสะอาด ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าเป็นโรคริดสีดวงทวารหนัก ทั้งที่ในความเป็นจริงอาการถ่ายเป็นเลือดอาจเกิดได้จากสาเหตุอื่นอีก เช่น โรคแผลปริปากทวารหนัก โรคติดเชื้อของลำไส้ใหญ่และทวารหนัก โรคลำไส้เป็นกระเปาะ และโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก เป็นต้น

ริดสีดวงทวารหนัก (hemorrhoid, pile) เกิดจากเยื่อบุและกระจุกเส้นเลือดปกติบริเวณ ใกล้รูทวารหนักซึ่งทำหน้าที่เป็นหมอนกันกระแทกอยู่ภายในเกิดการขยายตัวและหย่อนยาน ทำให้เนื้อเยื่อดังกล่าวเกิดการเลื่อนที่ลงล่างออกมาสู่บริเวณปากทวารหนัก อาจร่วมกับมีการฉีกขาดของเส้นเลือด ทำให้เกิดโรคริดสีดวงทวารหนัก

อาการของโรคริดสีดวงทวารหนัก มักจะมีอาการถ่ายเป็นเลือดสด โดยไม่มีอาการปวด อาจพบก้อนยื่นออกมาขณะถ่าย หรือ มีก้อนที่ปากทวารหนักอยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าเกิดมีลิ่มเลือดอุดตันในริดสีดวงทวาร จะทำให้มีอาการปวดมาก สาเหตุที่ทำให้เกิดริดสีดวงทวารหนักยังไม่ทราบแน่ชัด มีปัจจัยหลายอย่างที่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นริดสีดวงทวารหนัก ได้แก่ ท้องผูก เบ่งมาก นั่งส้วมนาน โดยเฉพาะผู้ที่ชอบอ่านหนังสือขณะเข้าห้องน้ำ หรือคนที่ท้องเสียถ่ายบ่อย รวมถึงผู้ที่มีประวัติมีคนในครอบครัวเป็นก็จะมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้สูงขึ้น

อุบัติการณ์ของโรคนี้ สามารถประเมินได้ยาก เนื่องจากผู้ป่วยส่วนใหญ่อาการจะไม่รุนแรง และผู้ป่วยบางคนที่มีอาการมากแล้ว แต่มีความอายหรือกลัวที่จะมาพบแพทย์ จึงทำให้สถิติผู้ป่วยโรคนี้ต่ำกว่าความเป็นจริงมาก มีบางรายงานในต่างประเทศพบว่าสามารถพบโรคนี้มากถึง 86% ตลอดช่วงชีวิตของประชากร จึงอาจกล่าวได้ว่า โรคริดสีดวงทวารหนักเป็นโรคที่มีความชุกสูง มากโรคหนึ่ง

ทางการแพทย์มักแบ่งริดสีดวงทวารหนักออกเป็น 2 ชนิดคือ ริดสีดวงภายใน (internal hemorrhoid) และ ริดสีดวงภายนอก (external hemorrhoid)

ริดสีดวงทวารหนักภายใน คือ ริดสีดวงซึ่งเกิดในช่องทวารเหนือรอยต่อของเยื่อบุของลำไส้ตรงกับผิวหนังของช่องทวารหนัก ซึ่งเยื่อบุของริดสีดวงชนิดนี้จะมีประสาทรับความเจ็บปวดน้อยมาก นิยมแบ่งความรุนแรงของริดสีดวงทวารหนักภายในออกเป็น 4 ระยะ คือ

ระยะที่ 1 มีเพียงอาการถ่ายเป็นเลือด โดยไม่มีก้อนโผล่จากปากทวารหนัก

ระยะที่ 2 มีก้อนโผล่ออกมาขณะถ่ายและกลับเข้าในปากทวารได้เองหลังถ่ายเสร็จ

ระยะที่ 3 ก้อนที่โผล่ออกมาไม่สามารถกลับเข้าไปได้เอง ต้องใช้นิ้วช่วยดัน

ระยะที่ 4 มีก้อนโผล่ออกมาตลอดเวลาหรือดันกลับเข้าไปแล้วก็ยังออกมาอีก

การรักษาทำได้หลายวิธี

วิธีที่ 1 วิธีการรักษาแบบประคับประ คอง ทำได้โดยการสร้างสุขนิสัยที่ดี ขับถ่ายให้ เป็นเวลา ไม่ควรนั่งส้วมนาน รับประทานผักผลไม้และดื่มน้ำให้เพียงพอ การรับประทานยาเพิ่มกากใยอาหารเพื่อให้ถ่ายง่ายขึ้น

วิธีที่ 2 การฉีดยาบริเวณรอบหัวริดสีดวง (sclerosing injection) เพื่อให้เกิดพังผืดรัดหัวริดสีดวงและฝ่อไปเองภายหลัง ข้อดีคือไม่เจ็บ ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล ฉีดยาเสร็จกลับบ้านได้เลย ได้ผลดีในริดสีดวงระยะที่ 1 และ 2 แต่ในริดสีดวงระยะที่ 3 ได้ผลไม่ค่อยดีนัก

วิธีที่ 3 การรัดยาง (rubber band ligation) วิธีการคือ แพทย์จะใช้เครื่องมือจับเหนือตัวริดสีดวงและยิงห่วงยางขนาดเล็ก เพื่อรัดเหนือหัวริดสีดวงซึ่ง เป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดเข้ามาเลี้ยง หลังจากรัดยาง เนื้อเยื่อที่ถูกรัดจะค่อย ๆ ขาดเลือด ประมาณ 5-7 วันหัวริดสีดวงก็จะหลุดออกมาเอง ริดสีดวงก็จะถูกรั้งไว้ภายในโดยพังผืดที่เกิดตามมา หลังจากรัดยางผู้ป่วยจะ มีเพียงอาการปวดถ่วงในทวารหนักเล็กน้อย น้อยรายที่จะมีอาการปวดมาก ที่สำคัญเป็นวิธีที่ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล วิธีนี้เหมาะกับริดสีดวงระยะที่ 2 และ 3 หรือระยะที่ 4 บางราย

วิธีที่ 4 การผ่าตัดหัวริดสีดวงออก เหมาะกับริดสีดวงระยะที่ 4 หรือระยะที่ 3 บางรายที่รักษาด้วยวิธีฉีดยาหรือรัดยางแล้วไม่ได้ผล ริดสีดวงทวารหนักภายในร่วมกับภายนอก และในกรณีที่เกิดโรคแทรกซ้อน เช่น ริดสีดวงอักเสบซึ่งทำให้เจ็บปวดรุนแรงมาก หรือมีเลือดออกมาก

การผ่าตัดทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับลักษณะ ของริดสีดวงทวาร ความเหมาะสมให้กับผู้ป่วย แต่ละคน และความชำนาญของศัลยแพทย์ ศัลย แพทย์ลำไส้ใหญ่และทวารหนักมักจะตัดริดสีดวงทวารออกและเย็บปิดแผลผ่าตัดโดยการใช้ยาชาเฉพาะที่ฉีดรอบปากทวารหนัก ไม่จำเป็นต้องฉีดยาชาเข้าไขสันหลังหรือดมยาสลบ ภายหลังผ่าตัดผู้ป่วยสามารถกลับบ้านได้ภายใน 1 วัน และ อาการปวดแผลมักจะไม่รุนแรง ส่วนการดูแลแผลผ่าตัดก็ไม่ยุ่งยาก และสามารถกลับเข้าทำงานตามปกติได้เร็ว

มีการนำเครื่องมือผ่าตัดด้วยแสงเลเซอร์มาใช้ในการผ่าตัดริดสีดวงทวารหนักแทนมีดผ่าตัดธรรมดาในระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา พบว่า สามารถห้ามเลือดได้ดี อาการปวดแผลผ่าตัดและระยะเวลาการหายน้อยกว่าการผ่าตัดธรรมดา แต่มีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นมาก จึงไม่ได้รับความนิยมเท่า ที่ควร

การผ่าตัดริดสีดวงด้วยเครื่องมือตัดและเย็บลำไส้อัตโนมัติ (staples hemorrhoidopexy) เป็นการผ่าตัดวิธีใหม่ที่เริ่มมีการทำกันมากขึ้น เหมาะกับริดสีดวงภายในที่ปลิ้นออกมาด้านนอกและสามารถดันกลับเข้าด้านในได้หมด ข้อดีคือใช้เวลาผ่าตัดสั้น อาการปวดหลังผ่าตัดไม่รุนแรง ข้อเสียคือเครื่องมือมีราคาค่อนข้างแพง อัตราการกลับเป็นใหม่สูงกว่าการผ่าตัดธรรมดา และไม่สามารถกำจัดริดสีดวงภายนอกที่เป็นมาก ๆ ได้

สำหรับริดสีดวงภายนอก โดยทั่วไปเป็นเพียงติ่งเนื้อที่อยู่ภายนอกปากทวารหนักและมักจะไม่สร้างปัญหา อาจมีเพียงความรำคาญ ทำความสะอาดยากหรือมีอาการคัน โดยทั่วไปไม่จำเป็นต้องรักษา ยกเว้นจะก่อให้เกิดความรำคาญมากหรือเกิดการปวดบวมจากการมีลิ่มเลือดในหัวริดสีดวง การรักษามีเพียงวิธีเดียวคือ การผ่าตัดหัวริดสีดวงออก

การป้องกันไม่ให้เป็นริดสีดวงทวารหนัก ทำได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับถ่ายโดยฝึกขับถ่ายให้เป็นเวลา ไม่นั่งส้วมนาน รับประทานอาหารที่มีกากใยอาหารสูง เช่น ผักและผลไม้ดื่มน้ำให้เพียงพอ และที่สำคัญเมื่อมีอาการผิดปกติ เกี่ยวกับการขับถ่ายควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางที่ชำนาญเพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

ข้อมูลจาก นายแพทย์นพดล นฤปิติ ศัลยแพทย์ลำไส้ใหญ่และทวารหนัก โรงพยาบาล พญาไท 3.

นายแพทย์สุรพงศ์ อำพันวง


โปรโมชั่น 6 สิงหาคม 2552 - 5 ตุลาคม 2552

แอลเจน (Algen)

แอลเจน (Algen)
แพทย์ทางเลือกสำหรับหอบหืด - ภูมิแพ้

ขนาดบรรจุ
: 30 แคปซูล

ราคาปกติ 1,250 บาท
ราคาสมาชิก 980 บาท
ข้อมูลผลิตภัณฑ์ แอลเจน (Algen)

Hair Growth Lotion

แฮร์ โกล์ว โลชั่น (สูตรพิเศษ)
โลชั่นบำรุงรากผม สำหรับคนที่ผมร่วง ผมบาง

ขนาดบรรจุ : 10 มล.

ราคาขาย : 750 บาท
ราคาสมาชิก : 600 บาท

รายละเอียดเพิ่มเติม

ศูนย์ย่อย ไทยธรรม - พระประแดง

ศูนย์ย่อย ไทยธรรม - พระประแดง
ผู้ดูแลศูนย์ คุณ สายสุณี ศิริทอง (บอล)
549/28 ม.3 ต.บางโปรง อ.เมือง สมุทรปราการ 10270
Tel.083 - 0128907

***ท่านสามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้า และสั่งซื้อสินค้า
ได้ที่ คุณ สายสุณี ศิริทอง (บอล)
Tel 083 - 0128907

ศูนย์ย่อยไทยธรรม - บางใหญ่

ศูนย์ย่อยไทยธรรม - บางใหญ่
ผู้ดูแลศูนย์ คุณ ชญาภา สีดาฟอง
63/239 ม.6 ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี 11140
Tel. 086 - 5259349


***ท่านสามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้า และสั่งซื้อสินค้า
ได้ที่ คุณ ชญาภา สีดาฟอง
Tel 086 - 5259349

แฮร์ โกล์ว โลชั่น (สูตรพิเศษ)

แฮร์ โกล์ว โลชั่น (สูตรพิเศษ)

คุณประโยชน์ :
โลชั่นสำหรับผู้ที่มีผมบาง หรือ ภาวะผมร่วงสำหรับหยดใส่ศรีษะในบริเวณที่ผมร่วง หรือ ผมบางลง เพื่อกระตุ้นให้ผมขึ้น และทำให้รากผมแข็งแรง

ส่วนประกอบสำคัญ :
Anagilime : ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ 5-reductase ลดการหลุดล่วงของเส้นผมเนื่องจากมีฮอร์โมนเพศชายมากเกินไป กระตุ้นการไหลเวียนโลหิตบริเวณเซลรากผม และกระตุ้นการงอกใหม่ของเส้นผม

Aqua Licorice Extract : ลดการหลุดล่วงของเส้นผมอันเกิดจากฮอร์โมนเพศชายมากเกินไป สาเหตุหลักของผมร่วง

Pueraria mirifica Extract : กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต และกระตุ้นการงอกใหม่ของเส้นผม

Vitamin B5 : ให้ความชุ่มชื้นแก่เส้นผม และ หนังศรีษะ ช่วยให้เส้นผมไม่หลุดล่วง และ หนาขึ้น ป้องกันผมแตกปลาย ช่วยกระตุ้นการเกิดใหม่ของเซลลื รวมทั้งการงอกใหม่ของเส้นผม ทำให้หนังศรีษะมีภูมิต้านทานดีขึ้น

จุดเด่นที่แตกต่าง :
1. เป็นโลชั่นสูตรพิเศษที่ซึมซาบล้ำลึก ลงสู่รากผมได้อย่างรวดเร็ว จึงเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ และ ไม่ทิ้งคราบเหนอะหนะไว้บนหนังศรีษะ
2. สามารถเห็นผลที่แตกต่าง ก่อน - หลัง การใช้อย่างต่อเนือง ภายในเวลาสัปดาห์ ต่อ สัปดาห์
3. ลดการหลุดล่วงของรากผมที่อ่อนแอจากกรรมพันธ์ หรือ ฮอร์โมนเพศได้

วิธีใช้ : ทานวดเบาๆบริเวณหนังศรีษะ ที่ผมร่วง ผมบาง วันละ 2 ครั้ง เช้า - เย็น เพื่อการเห็นผลชัดเจน
ควรใช้เป็นประจำทุกวัน ติดต่อกัน 3 เดือน ร่วมกับการรับประทาน Collagen Plus

ขนาดบรรจุ : 10 มล.
ราคาปกติ 750 บาท
ราคาสมาชิก 600 บาท

มาแล้ว...สุดยอดโปรโมชั่นแห่งปี

มาแล้ว...สุดยอดโปรโมชั่นแห่งปี

มา แล้ว! กับสุดยอด Promotion ท่องเที่ยวไปกับไทยธรรม กับ Packages เที่ยวเมืองจีน ดินแดนอันมีมนต์ขลัง และวัฒนธรรมกว่า 5000 ปี เหนื่อยมาทั้งปี ต้องตอบแทนดีๆกันหน่อย ด้วยกติกาง่ายๆ สำหรับว่าที่เศรษฐีเงินล้าน

กติกาท่องเที่ยว
  1. มีตำแหน่งโกเมนขึ้นไป
  2. เก็บคะแนน 10 เดือน (มีนาคม 2551 – ธันวาคม 2551) ท่องเที่ยวประมาณ มีนาคม 2552
  3. คะแนนยอดซื้อกลุ่มส่วนตัว 10 เดือน สะสมรวมกัน 200,000 คะแนน (เฉลี่ยเดือนละ 20,000 คะแนน) และ คะแนนยอดกลุ่มของลูกโกเมนชั้นที่ 1 รวมกัน 1,600,000 คะแนน (เฉลี่ยเดือนละ 160,000 คะแนน หากมีโกเมน 8 คน เฉลี่ยยอดกลุ่มคนละ 20,000 คะแนนต่อเดือน)
  4. ต้องยื่นใบสมัคร Promotion ท่องเที่ยว
กฏเกณฑ์การคิดคะแนน

1.ผู้สมัครทุกท่าน ที่มียอดกลุ่มส่วนตัวสะสมเกินกว่า 50% (คะแนนกลุ่มส่วนตัวสะสมเกิน 100,000 คะแนน) และ มียอดกลุ่มส่วนตัวของลูกชั้นที่ 1 สะสมเกินกว่า 50% (คะแนนกลุ่มลูกโกเมนชั้นที่ 1 สะสมเกิน 750,000 คะแนน) มีสิทธิรับการ Roll Up คะแนนจาก Downline

2. คะแนนที่ผ่านการ Roll Up จนเสร็จสิ้นแล้วสามารถนำมาตีเป็นมูลค่าตั๋วท่องเที่ยวได้ เช่น ทำคะแนนได้ 80% จากกติกา จ่ายเงินสดค่าตั๋วเป็นมูลค่า 20% ของค่าตั๋ว เป็นต้น

3. ผู้สมัครที่ทำคะแนนไม่ถึง 50% ของกฏเกณฑ์ข้อใดข้อหนึ่ง ต้องสละสิทธิ์ในโปรโมชั่นนี้ คะแนนของท่านจะถูก Roll-Up ขึ้นไปเป็นคะแนนท่องเที่ยวของ Up-Line ที่ผ่านกฏเกณฑ์ 50% ตามข้อกฏเกณฑ์การคิดคะแนนในข้อ 1

ไปไหนไปกัน! ถึงไหนถึงกัน! ร่วมดูโลกกว้าง ไปกับครอบครัวที่สองของท่าน

ครอบครัวอบอุ่นของเรา…ไทยธรรม อัลไลแอนซ์

Starry Cosmetiq สวยอย่างดวงดาว พราวอย่างดารา

Starry Cosmetiq
สตาร์รี่ คอสเมติก
"สวยอย่างดวงดาว พราวอย่างดารา"
เปิดตัวกลุ่มเวชสำอางจากน้ำมันสกัดเมล็ดองุ่น
และแล้วก็ถึงคราวเปิดตัวของ สตาร์รี่ คอสเมติก เวชสำอางจากโลกของนวัตกรรมของความงามของครอบครัว "จารุจินดา"เปิดศักราชใหม่2009 ด้วยซีรี่ส์ของเวชสำอางผสมน้ำมันสกัดเมล็ดองุ่น VITIS COSMETIC SERIES ประเดิมด้วย สบู่ใสผสมน้ำมันสกัดเมล็ดองุ่น และ สารสกัดธรรมชาติหลากหลายชนิด ทะนุถนอมบำรุงผิวหน้าที่ที่คุณแสนรัก ให้เปล่งปลั่ง นุ่มนวล ฟองละเอียด ทำความสะอาดล้ำลึก ปราศจากสิว หรือ รอยหมองคล้ำด่างดำ

น้ำมันสกัดจากเมล็ดองุ่น ให้ประสิทธิภาพในการทำลายอนุมูลอิสระ สาเหตุของความชรา ความร่วงโรย ความหมองคล้ำ การเกิดฝ้า และ จุดด่างดำ ได้สูงกว่าวิตามินอี 50 เท่า และ สูงกว่าวิตามินซีถึง 20 เท่า ทำให้ปัจจุบัน มีการนำน้ำมันสกัดจากเมล็ดองุ่นมาผสมในเวชสำอางระดับโลกหลายชนิด ให้ผลในการบำรุงผิว ลดการสร้างเม็ดสีใต้ผิวหนังปกป้องให้ผิวของคุณนุ่มนวล อ่อนเยาว์ ลดการเกิดริ้วรอย และ ชะลอความเสื่อมของผิวพรรณ

น้ำมันสกัดจากเมล็ดองุ่นใน Starry Cosmetiq ผ่านกรมวิธีสกัดเย็น(Cold - Pressed Method) ลิขสิทธิ์โลกจาก Vitis Vital ประเทศเยอรมัน

สบู่ใสของสตาร์รี่ คอสเมติก ผสมน้ำมันสกัดจากเมล็ดองุ่นมีให้คุณเลือกใช้ถึง 3 ชนิด ตามลักษะผิวพรรณและความต้องการเฉพาะของแต่ละบุคคล สำหรับผิวพรรณแต่ละชนิดที่คุณต้องการ

สูตรเพื่อผิวที่เป็นสิว(Starry Cosmetiq Acne Transparent Soap)










สูตรเพื่อผิวขาว(Starry Cosmetiq Whitening Transparent Soap)










สูตรเพื่อผิวชุ่มชื้น(Starry Cosmetiq Moisturizing Transparent Soap)










รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาคลิ็กที่รูปครับ

ถ่ายเป็นเลือด…อย่านิ่งนอนใจ


เคยไหมที่อยู่ดีๆก็ถ่ายอุจจาระเป็นเลือด?

หลาย คนอาจยังคงนิ่งนอนใจอยู่เพราะคิดว่าบางครั้งที่ถ่ายอุจจาระออกมาเป็นเลือด นั้น เป็นเรื่องเล็กน้อย ซึ่งคนส่วนใหญ่มักนึกว่าตนเองเป็นโรคริดสีดวงทวาร แต่โดยแท้จริงแล้วมีสาเหตุได้หลายประการ ทั้งแผลขอบทวารหนัก ฝีบริเวณทวารหนัก หรือโรคของเส้นเลือดในเยื่อบุผนังลำไส้แตก แต่ที่น่ากลัวที่สุดคือ...มะเร็ง!!!... อุจจาระเป็นเลือดหรือมีเลือดผสมอยู่ในอุจจาระ จะเป็นแบบไหนก็ล้วนแต่น่าตกใจทั้งนั้น เพราะนั่นย่อมแสดงให้เห็นว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นในร่างกายของเราแล้ว

สาเหตุของการถ่ายอุจจาระออกมาเป็นเลือดมี ด้วยกันหลายสาเหตุแล้วแต่พฤติกรรมในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน เช่น ถ่ายอุจจาระเป็นเวลาหรือไม่ ซึ่งคนส่วนมากที่มีสุขภาพดีมักจะได้รับการฝึกหัดให้ถ่ายอุจจาระเป็นประจำทุก เช้าจนเป็นนิสัย สำหรับหลายๆคนที่เคยมีอาการถ่ายเป็นเลือดเคยสังเกตตัวเองบ้างไหมว่า เวลาเข้าไปถ่ายอุจจาระในห้องน้ำมักจะมีพฤติกรรมในเรื่องนั่งแช่นานๆ หรือชอบนั่งอ่านหนังสือไปด้วย ท้องผูกเป็นประจำหรือเปล่า ดื่มน้ำน้อยและไม่ค่อยกินผักสด ชอบกินแต่เนื้อสัตว์ เครียดเป็นประจำและนอนดึก ทำให้พักผ่อนได้ไม่เพียงพอ สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุให้มีอาการดังกล่าวได้ทั้งนั้น

แล้วอย่างนี้จะมีวิธีสังเกตได้อย่างไรบ้างน๊ะ...

ลอง สังเกตดูว่าถ้าหากมีอาการคล้ายๆ อย่างนี้ส่วนใหญ่จะเป็นแผลที่ทวารหนักมากกว่า ลักษณะของเลือดที่ออก อาจพอบอกได้ว่าเลือดออกจากสาเหตุอะไร ถ้าเป็นเลือดสดๆ ออกตามหลังการถ่ายอุจจาระ หรือมีเลือดออกแต่ไม่ปนกับอุจจาระ มัก มีสาเหตุที่บริเวณทวารหนักหรือลำไส้ใหญ่ส่วนปลายมากกว่าลำไส้ด้านใน เช่น ริดสีดวงทวารหนัก ถ้าเลือดปนอยู่ในก้อนอุจจาระน่าจะเกิดจากตำแหน่งที่อยู่สูงขึ้นไป เนื่องมาจากทำให้ลำไส้มีเวลามากพอที่จะผสมเลือดกับอุจจาระเข้าด้วยกัน เลือดที่ออกจากแผลกระเพาะอาหาร มักมีสีดำและเหนียว แต่ถ้ามีมูกปนด้วย แสดงว่ามีปัญหาที่เยื่อบุลำไส้ใหญ่ เช่น ลำไส้อักเสบ หรือมะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นต้น

สำหรับวิธีป้องกันอาการถ่ายอุจจาระเป็นเลือดนั้น...ง่ายนิดเดียว...

กินอาหารที่มีกากใยมากๆ...หนึ่งในวิธีป้องกันการท้องผูกที่ดีวิธีหนึ่ง โดยการกินผัก ผลไม้ต่างๆ เช่น กล้วย มะละกอ ส้ม และที่สำคัญดื่มน้ำมากๆ อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว หลีกเลี่ยงอาหารที่ระคายเคืองทางเดินอาหารเช่น อาหารรสจัด ชา กาแฟ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ อีก ทั้งหากทำไม่ได้ด้วยเหตุผลใดก็ตาม จำเป็นต้องกินยาถ่ายอย่างอ่อนๆหรือกินสารเสริมที่ทำให้ถ่ายอุจจาระง่ายขึ้น เช่น เม็ดแมงลัก เมล็ดซีเลียม (psyllium)

เวลาปวดอุจจาระควรจะถ่ายทันที...ไม่ ควรจะอั้นไว้นานๆ เพราะจะทำให้ลำไส้ใหญ่มีเวลาดูดซึมน้ำกลับเข้าสู่ร่างกาย ทำให้เหลืออุจจาระที่ขาดน้ำ จนเกิดอาการแข็งตัว ถ่ายยาก และที่สำคัญควรฝึก การขับถ่ายให้เป็นเวลา ไม่เบ่งมากขณะขับถ่าย เนื่องจากการเบ่งมากจะทำให้เลือดคั่งบริเวณบริเวณทวารหนัก ทำให้เนื้อเยื่อปากทวารหนักบวมและเป็นแผลได้

ควรออกกำลังกายเป็นประจำ...ทำ โน่นทำนี่ไปเรื่อยๆไม่อยู่นิ่ง ไม่ควรนั่งหรือยืนนานๆ เพราะจะทำให้เกิดความดันในหลอดเลือดดำที่ช่องทวารหนักเพิ่มสูงขึ้น เอื้อต่อการเกิดริดสีดวงทวาร การออกกำลังกายยังสามารถช่วยป้องกันภาวะท้องผูกได้ด้วย เพราะจะทำให้มีกล้ามเนื้อแข็งแรง มีแรงเบ่งที่ดี

หลังถ่ายอุจจาระแล้วควรล้างก้นด้วยน้ำ...แล้วใช้กระดาษหรือผ้าซับให้แห้ง ไม่ควรเช็ดก้น เพราะการเช็ดจะทำให้เกิดการถลอกของเนื้อเยื่อทวารหนักไม่มากก็น้อย รอยถลอกเป็นทางเข้าของเชื้อโรคที่มีอยู่มากมายมหาศาลในอุจจาระ ทำให้เกิดติดเชื้ออักเสบได้

เพื่อ ให้รู้แน่ว่าอาการถ่ายเป็นเลือด เป็นเรื่องเล็กใหญ่แค่ไหน จำเป็นต้องหาสาเหตุให้แน่ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ถ่ายอุจจาระเป็นเลือดสดๆ เป็นๆ หายๆ บ่อยครั้ง หรือพบว่าถ่ายเป็นเลือดสดเพียงครั้งเดียวในผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี อย่างไรก็ตาม การหาสาเหตุของเลือดออกทางทวารหนักหรือการถ่ายอุจจาระเป็นเลือด สิ่งที่ดีที่สุดคือการตรวจให้แน่ใจว่าเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่หรือไม่

อย่าง ไรก็ตาม การหาสาเหตุของเลือดออกทางทวารหนักหรือการถ่ายเป็นเลือด ดีที่สุดคือ ไปให้แพทย์ตรวจ วิธีการตรวจอันดับแรกคือ ใช้นิ้วตรวจทางทวารหนักเพื่อดูลักษณะของอุจจาระ ตรวจหาก้อนหรือตรวจหาความผิดปกติอย่างอื่นภายในทวารหนัก อาจมีการตรวจพิเศษอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น การส่องกล้องทางทวารหนัก ซึ่งกล้องก็จะมีขนาดต่างๆ กัน ถ้าเป็นกล้องขนาดเล็ก ผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวอะไรสามารถเข้ารับการตรวจได้เลย

แต่ถ้าหากแพทย์สงสัยว่าต้นตอของสาเหตุจะอยู่ในตำแหน่งที่สูงขึ้นไปในลำไส้ใหญ่ อาจจำเป็นต้องตรวจด้วยกล้องที่ยาวขึ้นที่เรียกว่า ซิกมอยด์โดสโคป” (Sigmoidoscope) หรือ โคโลโนสโคป” (Colonoscope) ซึ่ง วิธีนี้ต้องเตรียมตัวก่อนเข้ารับการตรวจล่วงหน้าโดยการทำให้ลำไส้ใหญ่สะอาด เสียก่อน นอกจากนี้ยังมีการตรวจพิเศษอื่นๆ เช่น การเอกซเรย์สวนแป้งทางทวารหนัก (bariumenema) หรือเอกซเรย์ลำไส้ใหญ่ด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ความเร็วสูง (CT-Colonography) ซึ่งทำให้ได้รูปลำไส้ใหญ่ โดยไม่ต้องส่องกล้องและไม่ต้องดมยาหรือฉีดสีใดๆ

ดัง นั้นเมื่อมีอาการถ่ายเป็นเลือดก็ไม่ควรนิ่งนอนใจอีกต่อไป เพราะการปล่อยไว้จะทรมานมากกว่าและอาจรักษายากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพของตัวเรามากขึ้นด้วย อย่าง ไรก็ตามการปฏิบัติตนให้มีสุขภาวะที่ดี อย่างที่ สสส. ได้แนะนำไว้เสมอนั้น นอกจากจะทำให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงแล้ว สุขภาพใจก็ยังแข็งแรงตามไปด้วย

ที่มา : http://www.thaihealth.or.th

แนะนำ : เกรพ ซีด พลัส ไลโคปีน

ร่างกายขาดน้ำ Dehydration

ภาวะที่ร่างกายขาดน้ำหรือภาษาทางการแพทย์เรียก Dehydration หมายถึงภาวะที่ร่างกายเราสูญเสียน้ำมากกว่าที่ร่างกายได้รับซึ่งหากขาดน้ำ มากๆและไม่ได้รับการทดแทนอย่างเพียงพอ ในเวลาที่เหมาะสมก็อาจจะก่อให้เกิดผลเสียตามมา

น้ำเป็น ส่วนประกอบที่สำคัญของร่างกาย เป็นส่วนประกอบของเลือด น้ำย่อย ปกติร่างกายเราจะสูญเสียน้ำประมาณ 10 ถ้วยหรือ2.5 ลิตรทางเหงื่อ ลมหายใจและการขับถ่าย นอกจากน้ำแล้วร่างกายยังเสียเกลือแร่ด้วย

หน้าที่ของน้ำในร่างกาย

  • ช่วยในการควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย
  • เป็นให้ความชุ่มชื้นต่อเนื้อเยื่อของร่างกาย เช่น ปาก ตา จมูก
  • หล่อลื่นข้อ
  • ป้องกันอวัยวะภายใน
  • ป้องกันภาวะท้องผูก
  • ช่วยขับของเสียผ่านทางไต
  • ละลายเกลือแร่และสารอาหาร
  • นำอาหารและออกซิเจนไปสู่ร่างกายและเนื้อเยื่อ

สาเหตุ

  • สาเหตุ ที่สำคัญคือท้องร่วง และอาเจียน จากการติดเชื้อ เช่นอหิวา โรคบิด หรืออาหารเป็นพิษ จะมีประชากรทั่วโลกเสียชีวิตจากการขาดน้ำปีละ1.5ล้านคน กลุ่มที่เสี่ยงคืเด็กและทารก
  • ไข้สูงเสียเหงื่อมาก
  • ออก กำลังกายมาก และอยู่ในสภาพอากาศที่ร้อน ร่างกายจะเสียน้ำมากกว่าเกลือแร่ กลุ่มเสี่ยงคือวัยรุ่นซึ่งน้ำหนักจะน้อกว่าผู้ใหญ่ และเป็นวัยที่ชอบออกกำลังกาย
  • เสียน้ำทางปัสสาวะเช่นโรคเบาหวานและเบาจืด ร่างกายจะสูญเสียน้ำไปทางปัสสาวะมากจนอาจจะเกิดไตวาย
  • ผิวหนังถูกไฟไหม้ ร่างกายจะสูญเสียน้ำทางน้ำเหลืองที่ไหลออกมา

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ร่างกายขาดน้ำ

ทุกเพศทุกวัยมีความเสี่ยงในการขาดน้ำพอๆกัน แต่กลุ่มที่จะกล่าวจะมีความเสี่ยงต่อการขาดน้ำสูงกว่ากลุ่มอื่น กลุ่มดังกล่าวได้แก่

  • เด็กและทารก เด็กและทารกจะมีขนาดเล็ก น้ำหนักน้อย ร่างกายต้องการน้ำมากและเป็นกลุ่มซึ่งจะเกิดอาการท้องร่วงได้ง่ายกว่ากลุ่มอื่น
  • ผู้ สูงอายุ ผู้สูงอายุจะเสี่ยงต่อการขาดน้ำเนื่องจากปริมาณน้ำในร่างกายมีไม่มาก ประสาทในการรับรู้เรื่องหิวน้ำลดลง และการตอบสนองต่ออุณหภูมิของร่างกายเสียไป
  • ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่นเบาหวาน โรคไต ผู้ที่ติดสุรา กลุ่มนี้เพียงมีปัจจัยอื่นกระคุ้นเล็กน้อยก็อาจจะทำให้ร่างกายขาดน้ำ
  • ผู้ที่ออกกำลังกายมาก เช่นวิ่งมาราธอน ขี่จักรยาน ไตรกีฬา เพราะยิ่งออกกำลังกายนานร่างกายจะมีโอกาศขาดน้ำได้ง่าย
  • ผู้ ที่อาศัยอยู่ในที่สูง ร่างกายจะปรับตัวโดยการขับปัสสาวะเพิ่ม ขณะเดียวกันต้องหายใจไวเพื่อเพิ่มออกซิเจนในเลือดทำให้ร่างกายต้องขาดน้ำ

เราจะต้องไปพบแพทย์เมื่อไร

2

ผิวแห้งจนตั้งได้

1

ผิวแห้ง ตาโหล

สำหรับ ผู้ที่ร่างกายแข็งแรงสามารถทนต่อการขาดน้ำได้พอควร แต่กลุ่มเสี่ยงดังกล่าวอาจจะทนต่อการขาดน้ำได้น้อยจึงควรจะพบแพทย์ในกรณีดัง ต่อไปนี้

  • มีอาการท้องร่วงอย่างรุนแรง
  • อาเจียนติดต่อกัน 12 ชั่วโมง
  • มีอาการท้องร่วงติดต่อกัน 5 วัน
  • ซึมลง สับสน หน้ามืดเวลาเปลี่ยนท่าจากนั่งเป็นยืน

เราจะรู้ได้อย่างไรว่าร่างกายขาดน้ำ

สำหรับผู้ที่ขาดน้ำไม่มากเราอาจจะสังเกตสิ่งต่อไปนี้

  • ผิวแห้ง ริมฝีปากแห้ง
  • เพลียหลับงาน เด็กจะซึมไม่ค่อยเล่น
  • หิวน้ำ
  • ปัสสาวะน้อยลง เด็กเล็กจะปัสสาวะน้อยกว่า 6 ครั้งใน 1 วัน ส่วนเด็กโตหากไม่ปัสสาวะใน 8 ชั่วโมงถือว่าร่างกายขาดน้ำ
  • เด็กร้องไห้ไม่มีน้ำตา
  • ไม่มีแรง
  • ปวดศรีษะ

สำหรับผู้ที่ขาดน้ำอย่างรุนแรงจะสังเกตเห็นสิ่งต่อไปนี้

  • กระหายน้ำอย่างมาก
  • สับสนกระวนกระวาย เด็กอาจจะซึมลง
  • ผิวหนัง ปากจะแห้งมาก
  • ไม่มีเหงื่อ
  • ไม่ปัสสาวะ หรือปัสสาวะออกน้อยมาก
  • ตาโหล
  • ผิวแห้งสูญเสียความยึดหยุ่่น เมื่อเราดึงผิวหนังขึ้นมาผิวจะตั้งได้ดังรูป
  • หากเป็นเด็กทารกบริเวณขม่อมจะบุ๋มลง
  • ความดันต่ำ ชีพขจรเร็ว
  • หายใจเร็ว
  • ซึม หรือหมดสติ

การรักษา

การทดแทนน้ำเป็นวิธีที่ดีที่สุด

  1. การทดแทนน้ำในเด็ก
  • หาก ไม่มีข้อห้ามจากแพทย์ท่านสามารถดื่มน้ำเกลือแร่ทันทีที่มีภาวะเสียน้ำ เช่นท้องร่วง หากไม่มีน้ำเกลือแร่ก็อาจจะผสมเกลือ ครึ่งช้อนชา ผงฟู ครึ่งช้อนชา น้ำตาล 3 ช้อนโต๊ะผสมในน้ำ 1 ลิตร เราจะรู้ว่าได้รับน้ำเพียงพอโดยดูจากปริมาณปัสสาวะและสีปัสสาวะว่าใสและออก มากจึงลงปริมาณน้ดื่ม
  • สำหรับทารกไม่ต้องหยุดนมแต่ให้ รับน้ำเกลือแร่เสริม สำหรับผู้ที่ดื่มนมผงก็เปลี่ยนนมที่ไม่มี lactose จนกระทั่งท้องร่วงดีขึ้นจึงให้ดื่มนมตามปกติ
  • ให้หลีก เลี่ยงเครื่องดื่มหรืออาหารบางประเภท เช่นน้ำเปล่าเพราะว่าไม่มีเกลือแร่ น้ำดื่มสำหรับออกกำลังไม่เหมาะสมที่นำมาใช้ในคนที่เสียน้ำจากท้องร่วงเพราะ ในน้ำดื่มสำรับออกกำลังจะมีเกลือแร่น้อยกว่า
  1. การทดแทนน้ำสำหรับผู้ที่ออกกำลังกาย ให้ใช้น้ำเปล่าหรืออาจจะใช้น้ำดื่มสำหรับคนที่ออกกำลังกาย
  2. สำหรับผู้ใหญ่ที่ท้องร่วงก็ทดแทนโดยการดื่มน้ำหรือน้ำเกลือแร่ให้พอ
  3. สำหรับผู้ที่ป่วยหนักต้องรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล

ภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญ

ภาวะขาดน้ำหากเราได้รับน้ำทดแทนไม่ทันเวลาและปริมาณไม่พอก็อาจจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนซึ่งอาจจะอันตรายทำให้เสียชีวิตได้

  • เกิดภาวะเป็นลมแดด
  • สมองบวมเนื่องจากสมองจะดึงน้ำเข้าเซลล์มาก
  • ชักเนื่องจากเสียสมดุลเกลือแร่
  • ความดันต่ำหรือช็อกจากขาดน้ำ
  • ไตวาย
  • โคม่าและเสียชีวิต

การป้องกัน

การป้องกันภาวะขาดน้ำสามารถทำได้โดยการดื่มน้ำ น้ำผลไม้ หรืออาหารที่มีน้ำมาก เช่นผักและผลไม้ สำหรับภาวะที่ต้องให้ความสนใจได้แก่

  • สำหรับ ผู้ที่ป่วยมีโรคประจำตัว ควรจะเริ่มให้น้ำผสมเกลือแร่ทันทีที่เริ่มมีภาวะเสี่ยงต่อการขาดน้ำ ไม่ต้องรอให้เกิดภาวะขาดน้ำ หากดื่มน้ำเปล่าอาจจะทำให้ร่างกายเสียสมดุลเกลือแร่ได้
  • หาก ต้องออกกำลังกายมากเป็นระยะเวลาต่อเนื่องเช่นวิ่งมาราธอน เราจะต้องดื่มน้ำให้มากพอก่อนออกกำลังกาย 1 วันเราจะรู้ได้โดยสังเกตปัสสาวะจะใสและออกมาก ก่อนออกกำลัง 2 ชั่วโมงก็ให้ดื่มน้ำ 2 แก้ว สำหรับผู้ที่ออกกำลังปกติอาจจะให้ดื่ม1-2แก้วก่อนออกกำลังกายครึ่งชั่วโมงก็ น่าจะเพียงพอ
  • สำหรับสภาวะอากาศที่ร้อนเราต้องดื่มน้ำเพิ่ม
ขอบคุณทีี่่มา : ttp://www.siamhealth.net

ภยันตรายจากไขมันในเลือด

โคเลสเตอรอลในเลือดมีกี่ชนิด
เมื่อท่านไปรับการตรวจเลือดเพื่อดูระดับโคเลสเตอรอลในเลือด ค่าโคเลสเตอรอลที่ตรวจวัดได้ จะเป็นผลรวมของโคเลสเตอรอลที่ได้มาจากแอล ดี แอล โคเลสเตอรอล LDL, เอช ดี แอล โคเลสเตอรอล HDL และ วี แอล ดี แอล โคเลสเตอรอล VLDL (คือ ค่าไตรกลีเซอไรด์ หารด้วย 5)
ในคนที่มีระดับไขมันในเลือดปกติร้อยละ 70 ของโคเลสเตอรอลที่วัดได้มาจากแอล ดี แอลและ ร้อยละ 17 มาจาก เอช ดี แอล ดังนั้นส่วนใหญ่ของผู้ที่มีระดับโคเลสเตอรอลสูงจะเกิดจากการที่มีแอล ดี แอล โคเลสเตอรอลสูง อย่างไรก็ตามผู้ที่มีระดับเอช ดี แอล โคเลสเตอรอลสูงมากก็สามารถทำให้ระดับโคเลสเตอรอลรวมสูงได้เช่นกัน

ชนิดของไขมัน
Total Cholesterol < 200
HDL Cholesterol > 40
LDL Cholesterol < 130
Triglyceride < 200
แอล ดี แอล โคเลสเตอรอล สูง เป็นไขมันที่เป็นต้นเหตุและ เป็นตัวการที่สำคัญที่สุดของโรคหลอดเลือดแดงตีบตัน ระดับแอล ดี แอล โคเลสเตอรอลในเลือดสูงมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตันและ หลอดเลือดสมองตีบตัน
เอช ดี แอล โคเลสเตอรอล เป็นไขมันที่มีหน้าที่ป้องกันและต่อต้านการเกิดโรคหลอดเลือดแข็ง ระดับเอช ดี แอล โคเลสเตอรอลที่ต่ำ จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน
นอกจากนี้ ไขมันไตรกลีเซอไรด์ที่สูงก็เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดแดงแข็งเช่นเดียวกัน
ไขมันในเลือดประมาณ 2/3 ได้มาจากการสร้างที่ตับโดยการย่อจากไขมันอิ่มตัว [saturated fat ] ที่เรารับประทานหากเรารับประทานไขมันอิ่มตัวมากไขมันในเลือดก็จะสูง แต่อาหารที่เรารับประทานก็ไม่ได้มีมีเพียงไขมันชนิดเดียวแต่จะประกอบส่วนผสม ของไขมันดังนี้คือ
* ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (monounsaturated)
* ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน(polyunsaturated)
* ไขมันอิ่มตัว( saturated fatty acids)
* trans-fatty acids
ปริมาณไขมันแต่ละชนิดจะมีส่วนประกอบของไขมันต่างกันมากบ้างน้อยบ้าง แล้วแต่ชนิดอาหาร เช่นน้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันปาล์มหรือไขมันจากสัตว์จะมีไขมันอิ่มตัวสูง ไขมันที่เป็นผลเสียต่อร่างกายได้แก่ไขมันอิ่มตัว( saturated fatty acids) และ trans-fatty acids ซึ่งจะต้องให้ความสนใจเป็นอันดับแรก ไขมันอิ่มตัวจะพบมากในอาหารไขมันที่มาจากสัตว์เช่นน้ำมันหมู ข้าวมันไก่ ข้าวขาหมู น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว กะทิ อาหารทอดทั้งหลายส่วนใหญ่จะทอดด้วยน้ำมันปาล์มหรือน้ำมันมะพร้าว ดังนั้นจึงต้องเลี่ยงอาหารทอด
แนวทางป้องกันโคเลสเตอรอลในเลือดสูง (จรวยพร ธรณินทร์, 2538)
1. บริโภคน้ำมันให้น้อยลง โดยปริมาณไขมันในอาหารไม่ควรเกินร้อยละ 30 ของพลังงานทั้งหมด ด้วยการลดหรืองด อาหารจำพวก ของทอด ของผัด ของมันเช่น เนย งา มะม่วงหิมพานต์ ถั่วลิสง เนื้อสัตว์ มะพร้าว กะทิ ไข่แดง นม
2. บริโภค โคเลสเตอรอลให้น้อยลง โดยการลดหรืองด อาหารอาหารประเภทสมอง ไข่แดง
เครื่องในสัตว์ และอาหารทะเลที่มีเปลือกเช่น กุ้ง หอย ปู
3. บริโภคกรดไขมันอิ่มตัวให้น้อยลง ด้วยการลดหรืองด น้ำมันมะพร้าว น้ำมันปาล์ม นม เนย กะทิ เนื้อวัว เนื้อหมู
4. บริโภคไขมันไม่อิ่มตัวให้พอเหมาะ ด้วยการบริโภคน้ำมันมะกอก 1 ส่วนผสมกับน้ำมันถั่วเหลือง 1 ส่วน แต่เนื่องจากน้ำมันมะกอกราคาแพงและหาซื้อได้ยาก จึงแนะนำให้ใช้น้ำมันรำข้าว 1 ส่วน ผสมกับน้ำมันถั่วเหลือง 1 ส่วนพร้อมบริโภคปลาทะเลสัปดาห์ละประมาณ 3 มื้อ
สมุนไพรที่มีสรรพคุณลดไขมันในเลือด
เห็ดหูหนู, เห็ดหลินจือ, กระเจี๊ยบ, ดอกคำฝอย, กระเทียม, หัวหอม, เสาวรส, ถั่วเหลือง

แนะนำผลิตภัณฑ์ : เกรพซีด พลัส ไลโคปีน

Starry Cosmetiq Whitening Transparent Soap

สบู่สตาร์รี่ คอสเมติก สูตรเพื่อผิวขาว
สบู่เพื่อผิวขาวใส ผสมสารสกัดเมล็ดองุ่น และสารสกัดจากทับทิม
วิธีใช้ : ทำความสะอาดผิวหน้า แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
ขนาดบรรจุ : 70 กรัม
ราคาปกติ : 360 บาท
ราคาสมาชิก : 300 บาท
รายละเอียดเพิ่มเติม

Starry Cosmetiq Acne Transparent Soap

สบู่สตาร์รี่ คอสเมติก สูตรรักษาสิว
สบู่ใสสำหรับผิวที่เป็นสิว ผสมสารสกัดเมล็ดองุ่น และสารสกัดจากเปลือกมังคุด
วิธีใช้ : ทำความสะอาดผิวหน้า แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
ขนาดบรรจุ : 70 กรัม
ราคาปกติ : 360 บาท
ราคาสมาชิก : 300 บาท
รายละเอียดเพิ่มเติม

Starry Cosmetiq Moisturizing Transparent Soap

สบู่สตาร์รี่ คอสเมติก สูตรเพื่อผิวชุ่มชื้น
สบู่ใสเพื่อผิวชุ่มชื้น ผสมสารสกัดเมล็ดองุ่น และสารสกัดจากดอกบัว
วิธีใช้ : ทำความสะอาดผิวหน้า แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
ขนาดบรรจุ : 70 กรัม
ราคาปกติ : 360 บาท
ราคาสมาชิก : 300 บาท
รายละเอียดเพิ่มเติม

ข้อมูลบริษัท



วิสัยทัศน์ (Vision)
ไทยธรรม อัลไลแอนซ์ เป็นบริษัทฯที่เกิดจากการรวมตัวกันของบุคคลากรหลากหลายสาขาอาชีพ และ หลากหลายความชำนาญ รวมทั้งแพทย์ เภสัชกร นักวิชาการ และ นักการตลาด ที่มีความตั้งใจในการสร้างธุรกิจเพื่อคนไทยในทุกระดับ โดยมีการคัดสรร และ เลือกจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภค บริโภค ในกลุ่มของผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ นวัตกรรมด้านการแพทย์ เภสัชกรรม เครื่องสำอาง และ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน (Health Care, Household Products, and Personal Care)โดยจัดจำหน่ายผ่านระบบขายตรงแบบเครือข่ายหลายชั้น(Network & Multi-Level Marketing) โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมการสร้างธุรกิจ และ คุณภาพชิวิตของคนไทย และ เพื่อให้คนไทยได้บริโภคสินค้าคุณภาพสูง ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และ การดำรงชีวิต ในราคายุติธรรม
พันธกิจ (Mission Statement)
เพื่อส่งเสริมการสร้างอาชีพของคนไทย เพื่อให้คนไทยทุกคน ได้บริโภคสินค้าคุณภาพสูง ในราคายุติธรรม เพื่อส่งเสริมสุขภาพ และ คุณภาพชีวิตของคนไทย เพื่อให้คนไทย มีโอกาสเท่าเทียมกัน ในการสร้างงาน สร้างธุรกิจ และ สร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับตัวเอง และ ครอบครัว เพื่อพัฒนาศักยภาพส่วนบุคคลของคนไทยทุกคน เพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดยคนไทย ไปยังตลาดทั้งในประเทศ และ ทั่วโลก เพื่อส่งเสริมการใช้สมุนไพรไทยอย่างถูกต้อง และ ส่งเสริมผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพของคนไทย
พันธกิจหลัก (Main Mission)
กำไรส่วนหนึ่งจากการดำเนินธุรกิจ ของบริษัทไทยธรรม อัลไลแอนซ์ จะถูกบริจาคทั้งหมด ให้กับมูลนิธิไทยธรรม เพื่อสร้างสรรประโยชน์ให้กับคนไทย และ สังคมไทย ไม่ว่าจะเป็นคนไทยที่อยู่บน แผ่นดินไหน ทั่วโลก เพื่อแจกจ่าย เจือจุน และ สร้างวิถีชีวิตที่ดีกว่า ให้กับคนไทยด้วยกัน จากน้ำใจคนไทย
กรรมการบริหาร (Executive Directors)
คุณจารุณี (สุขสวัสดิ์) เดส์แน็ช
ภ.ญ.อาริยา สาริกะภูติ
ที่ปรึกษาด้านวิชาการ
ภ.ญ.อาริยา สาริกะภูติ
น.พ.ไพบูลย์ เอกแสงศรี
น.พ. พิพัฒน์ เอกแสงศรี
ภ.ญ. รุ่งทิวา เลาหเธียรประธาน
น.พ. ชวลิต อนวัชการ

สถานที่ตั้ง
ประกอบด้วยอาคารสูง 4ชั้น 2คูหา หันหลังชนกัน
และอาคาร 3ชั้น 1คูหา ที่แยกส่วนออกไปเป็นสต็อกสินค้า




ThaiDham Allianze Ltd. ไทยธรรมอัลไลแอนซ์ จำกัด
32/115 หม๋8 ซอยนวลจันทร์ 12 คลองกุ่ม บึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร 10230
Tel: 02-946-1367-72 Fax: 02-946-1373

สบู่สตาร์รี่ คอสเมติก สูตรเพื่อผิวขาว

สบู่สตาร์รี่ คอสเมติก สูตรเพื่อผิวขาว
(Starry Cosmetiq Whitening Transparent Soap)

สบู่เพื่อผิวขาวใส ผสมสารสกัดเมล็ดองุ่น และสารสกัดจากทับทิม
สบู่ใสสีชมพูอ่อน สำหรับช่วยให้ผิวหน้าขาว กระจ่างใส ลดริ้วรอยด่างดำ หมองคล้ำบนผิวหน้า กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว เพื่อผิวที่อ่อนเยาว์ ต้านอนุมูลอิสระ ด้วยน้ำมันสกัดเมล็ดองุ่นแบบสกัดเย็น VITIS GRAPE SEED® จากเยอรมัน และ อีก 3 สารสกัดที่ออกฤทธิ์ร่วมกันในการยับยั้งการสร้างเม็ดสี และ ทำให้ผิวขาว คือ สารสกัดจากทับทิม สารสกัดจากมะขามป้อม และ สารสกัดจากสาเก

คุณสมบัติของสารสำคัญ


น้ำมันสกัดจากเมล็ดองุ่น VITIS GRAPE SEED® (Cold Pressed Grape Seed Oil) ผ่านกรรมวิธีการสกัดแบบสกัดเย็น ลิขสิทธิ์โลกจาก Vitis Vital® เยอรมันนี มีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระ สูงกว่าวิตามินอีถึง 50 เท่า และ สูงกว่าวิตามินซี 20 เท่า ชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว ลดการสร้างเม็ดสีใต้ผิวหนัง ทำให้รอยด่างดำ บนผิวหนังจางลง ปรับสีผิวให้เรียบ เนียน สม่ำเสมอ


สารสกัดจากทับทิม (Pomegranate Extract) มีสาร Ellagic Acid ยับยั้งการสร้างเม็ดสีใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวขาว ใสขึ้น ปกป้องผิวจากการทำลายโดยแสงแดดทั้ง UVA และ UVB ลดความหมองคล้ำของผิวหน้า


สารสกัดจากมะขามป้อม (Emblica Extract) มีวิตามินซีสูง ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ Tyrosinase จึงยับยั้งการสร้างเม็ดสีใต้ผิวหนังได้ และ กระตุ้นการผลัดผิวของผิวชั้นนอก ทำให้ผิวหน้ากระจ่างใสขึ้น


สารสกัดจากสาเก (Breadfruit Extract) สารสกัดจากเนื้อไม้สาเก มีฤทธิ์ยับยั้งการสร้างเม็ดสีใต้ผิวหนังอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผิวขาว กระจ่างใส


ขนาดบรรจุ : 70 กรัม
ราคาปกติ : 360 บาท
ราคาสมาชิก : 300 บาท

สบู่สตาร์รี่ คอสเมติก สูตรรักษาสิว

สบู่สตาร์รี่ คอสเมติก สูตรรักษาสิว
(Starry Cosmetiq Acne Transparent Soap)

สบู่ใสสำหรับผิวที่เป็นสิว ผสมสารสกัดเมล็ดองุ่น และสารสกัดจากเปลือกมังคุด

สบู่ใสสีม่วงอ่อน สำหรับผิวหน้าที่เป็นสิว ผิวมัน และ ผิวที่เป็นสิวได้ง่าย ผสมน้ำมันสกัดเมล็ดองุ่นแบบสกัดเย็น VITIS GRAPE SEED® จากเยอรมัน สารสกัดเปลือกมังคุด สารสกัดจากงาขี้ฆ้อน และ สารสกัดจากขิง มีคุณสมบัติบำรุงผิว ให้ความอ่อนนุ่มชุ่มชื้น ยับยั้งแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิว ลดอาการสิวอักเสบ กระชับรูขุมขน ลดความมันบนผิวหน้า และ กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว

คุณสมบัติของสารสำคัญ :


น้ำมันสกัดจากเมล็ดองุ่น VITIS GRAPE SEED® (Cold Pressed Grape Seed Oil) ผ่านกรรมวิธีการสกัดแบบสกัดเย็น ลิขสิทธิ์โลกจาก Vitis Vital® เยอรมันนี มีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระ สูงกว่าวิตามินอีถึง 50 เท่า และ สูงกว่าวิตามินซี 20 เท่า ชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว ลดการสร้างเม็ดสีใต้ผิวหนัง ทำให้รอยด่างดำ บนผิวหนังจางลง ปรับสีผิวให้เรียบ เนียน สม่ำเสมอ

สารสกัดจากเปลือกมังคุด (Mangosteen Extract) ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว และ สิวอักเสบ ลดอาการอักเสบของผิว และ กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต

สารสกัดจากงาขี้ฆ้อน (Perilla Extract) ลด อาการอักเสบของผิว โดยเฉพาะการอักเสบแบบผื่นแพ้ มีกรดไขมันจำเป็น Omega-3 และ Linoleic Acid ในปริมาณสูง ทำให้ลดอาการแพ้ทางผิวหนังได้ดี

สารสกัดจากขิง (Ginger Extract) สารสกัด จากขิง มีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระ ต้านเชื้อแบคทีเรีย ที่ทำให้เกิดสิว และลดการอักเสบของสิว และ กระตุ้นการไหลเวียนโลหิตบริเวณผิวหน้า
ขนาดบรรจุ : 70 กรัม
ราคาปกติ : 360 บาท
ราคาสมาชิก : 300 บาท

สบู่สตาร์รี่ คอสเมติก สูตรเพื่อผิวชุ่มชื้น

สบู่สตาร์รี่ คอสเมติก สูตรเพื่อผิวชุ่มชื้น
(Starry Cosmetiq Moisturizing Transparent Soap)
สบู่ใสเพื่อผิวชุ่มชื้น ผสมสารสกัดเมล็ดองุ่น และสารสกัดจากดอกบัว


สบู่ใส ปราศจากสี เนื้อเนียนละเอียด ให้ความอ่อนนุ่ม ชุ่มชื้น และ บำรุงผิวจาก น้ำมันสกัดเมล็ดองุ่นแบบสกัดเย็น VITIS GRAPE SEED® จากเยอรมัน สารสกัดจากดอกบัว สารสกัดจากชาขาว และ สารสกัดจากว่านหางจระเข้ เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง และ ผิวที่ขาดการบำรุง

คุณสมบัติของสารสำคัญ
:

น้ำมันสกัดจากเมล็ดองุ่น VITIS GRAPE SEED® (Cold Pressed Grape Seed Oil) ผ่านกรรมวิธีการสกัดแบบสกัดเย็น ลิขสิทธิ์โลกจาก Vitis Vital® เยอรมันนี มีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระ สูงกว่าวิตามินอีถึง 50 เท่า และ สูงกว่าวิตามินซี 20 เท่า ชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว ลดการสร้างเม็ดสีใต้ผิวหนัง ทำให้รอยด่างดำ บนผิวหนังจางลง ปรับสีผิวให้เรียบ เนียน สม่ำเสมอ

สารสกัดจากดอกบัว (Lotus Extract) เป็น หนึ่งในสารให้ความชุ่มชื้นที่มีประสิทธิภาพสูงในวงการเวชสำอาง เหมาะกับผิวที่แห้ง ขาดความชุ่มชื้น จากวัย และ สิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ยังกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ลดเลือนริ้วรอยเล็กๆ ทำให้ผิวกระจ่างใสและ ชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว


สารสกัดจากชาขาว (White Tea Extract) กระตุ้นภูมิต้านทานผิว ปกป้องผิวที่เสียจากการถูกทำลายโดยแสงแดด ต้านอนุมูลอิสระ และ ชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว


สารสกัดจากว่านหางจระเข้ (Aloe Vera Extract) เป็นสารให้ความชุ่มชื้นประสิทธิภาพสูงอีกชนิดหนึ่งในวงการเวชสำอาง ลดอาการระคายเคืองและอักเสบของผิว ฟื้นฟูสภาพผิวที่ถูกทำลายโดยแสงอาทิตย์ มีฤทธิ์ระงับสิวอักเสบ และ ช่วยให้แผลหายเร็ว


ขนาดบรรจุ : 70 กรัม

ราคาปกติ : 360 บาท
ราคาสมาชิก : 300 บาท

แผนการตลาด - TDA Master Compensation Plan

แผนการตลาด - TDA Master Compensation Plan

แผนการตลาด - Promotion Fast Start Bonus

แผนการตลาด - Promotion Fast Start Bonus

เอ็นฮานซ์ แฮร์ โกรท แชมพู

เอ็นฮานซ์ แฮร์ โกรท แชมพู

คุณประโยชน์
:
แชมพูทำความสะอาด และ บำรุงรากผมสำหรับผู้ที่ผมบาง หรือ ผมร่วง ประกอบด้วยสารสกัดจากธรรมชาติหลากหลายชนิด ที่มีคุณสมบัติในการกระตุ้นการงอกใหม่ของเส้นผม และ บำรุงเซลล์รากผม ป้องกันผมร่วง ช่วยให้รากผมแข็งแรง ผมดกเป็นเงางาม

ส่วนประกอบสำคัญ :

D - Panthenol : อีกรูปแบบหนึ่งของวิตามินบี 5 ซึมซาบลงถึงรากผมอย่างล้ำลึก เพื่อบำรุงหนังศรีษะ ช่วยซ่อมแซมเส้นผมที่ฉีกขาด เปราะบาง ผมแตกปลาย หรือถูกทำลาย จากการตกแต่งทรงผม ช่วยให้เส้นผมอุ้มน้ำได้ดีขึ้น เพิ่มความยืดหยุ่น และสปริงให้กับเส้นผม

Coconut Diethanolamide : ช่วยเคลือบให้เส้นผมเป็นเงางาม และ ดูสุขภาพดี ผมไม่พันกัน จัดทรงง่าย

Ginseng Extract : สารสกัดจากโสม กระตุ้นการไหลเวียนโลหิตไปหล่อเลี้ยงหนังศรีษะ กระตุ้นการงอกใหม่ของเส้นผม และ ปรับสภาพหนังศรีษะที่ถูกทำลาย ให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น

Pueraria mirifica Extract : สารสกัดจากกวาวเครือ มีคุณสมบัติในการกระตุ้นการงอกใหม่ของเส้นผม คืนความมีสุขภาพดี และ อ่อนเยาว์ให้เซลล์หนังศรีษะ
Swertia Extract : ทำความสะอาดหนังศรีษะอย่างล้ำลึกหมดจดกำจัดรังแค อาการคัน และ อาการระคายเคืองหนังศรีษะ

Gingko Biloba Extract : สารสกัดจากใบแปะก๊วย กระตุ้นการไหลเวียนโลหิตที่ไปเลี้ยงเซลล์รากผม กระตุ้นการงอกใหม่ของเส้นผม ทำให้รากผมที่งอกใหม่แข็งแรง

จุดเด่นที่แตกต่าง :

1. เป็นสารสกัดจากธรรมชาติล้วน ปราศจากการระคายเคือง หรือสารตกค้างบนหนังศรีษะ
2. สามารถใช้ทำความสะอาดเส้นผมได้ทุกวัน โดยไม่ทำให้ผมแห้งกร้าน
3. ป้องกัน และ ลดอาการผมร่วง
4. บำรุงหนังศรีษะ ขณะทำความสะอาด

วิธีใช้ : ใช้ทำความสะอาดเส้นผม สระได้บ่อยครั้งเท่าที่ต้องการสำหรับผู้ที่ผมร่วง ผมบาง ควรใช้ร่วมกับ แฮร์ โกรท โลชั่น และ การรับประทาน Collagen Plus

ขนาดบรรจุ : 250 มล.
ราคาปกติ 375 บาท
ราคาสมาชิก 300 บาท

ผลิตภัณฑ์แนะนำ :
บี ดริ้งคส์ (วัว) Be Drinks (Bovine),บี ดริ้งคส์ (ปลา) Be Drinks (Marine)

Everyday Shampoo

เอเวอรี่ เดย์ แชมพู
แชมพูสำหรับใช้ทุกวัน

ขนาดบรรจุ : 250 มล.
ราคาปกติ 250 บาท
ราคาสมาชิก 220 บาท

รายละเอียดเพิ่มเติม

Anti - Dandruff Shampoo

แอนตี้ แดนดรัฟฟ์ แชมพู
แชมพูทำความสะอาด และ ป้องกันรังแค

ขนาดบรรจุ : 250 มล.
ราคาปกติ 375 บาท
ราคาสมาชิก 300 บาท

รายละเอียดเพิ่มเติม

Enhanced Hair Growth Shampoo

เอ็นฮานซ์ แฮร์ โกรท แชมพู
แชมพูทำความสะอาด กระตุ้นการงอกใหม่ และลดการหลุดล่วงของเส้นผม บำรุงรากผมให้แข็งแรง

ขนาดบรรจุ
: 250 มล.

ราคาปกติ 375 บาท
ราคาสมาชิก 300 บาท

รายละเอียดเพิ่มเติม

เอเวอรี่ เดย์ แชมพู

เอเวอรี่ เดย์ แชมพู

คุณประโยชน์ :
แชมพูทำความสะอาดล้ำลึก อ่อนโยน และถนอมเส้นผม สำหรับใช้ทุกวัน โดยไม่ทิ้งสารตกค้างไว้บนหนังศรีษะ เหมาะกับทุกสภาพเส้นผม

ส่วนประกอบสำคัญ :

D - Panthenol
: อีก รูปแบบหนึ่งของวิตามินบี 5 ซึมซาบลงถึงรากผมอย่างล้ำลึก เพื่อบำรุงหนังศรีษะ ช่วยซ่อมแซมเส้นผมที่ฉีกขาด เปราะบาง ผมแตกปลาย หรือถูกทำลาย จากการตกแต่งทรงผม ช่วยให้เส้นผมอุ้มน้ำได้ดีขึ้น เพิ่มความยืดหยุ่น และสปริงให้กับเส้นผม

Coconut Diethanolamide : ช่วยเคลือบให้เส้นผมเป็นเงางาม และสุขภาพดี ผมไม่พันกัน จัดทรงได้ง่าย

Chamomile Extract : สารสกัดจากดอกชาโมมาย มีคุณสมบัติในการบำรุงรากผม และหนังศรีษะ ลดการระคายเคืองของหนังศรีษะ ทำให้โครงสร้างของเส้นผมแข็งแรง

Corn Silk Extract : ให้ความชุ่มชื้นแก่หนังศรีษะและเส้นผมกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต และ บำรุงหนังศรีษะ

จุดเด่นที่แตกต่าง :
1.เป็นสารสกัดจากธรรมชาติล้วน ปราศจากการระคายเคือง หรือ สารตกค้างบนหนังศรีษะ สามารถใช้ทำความสะอาดเส้นผมได้ทุกวัน โดยไม่ทำให้ผมแห้งกร้าน
2.บำรุงหนังศรีษะขณะทำความสะอาด

วิธีใช้ : ใช้ทำความสะอาดเส้นผม สามารถสระได้บ่อยครั้งเท่าที่ต้องการ

ขนาดบรรจุ : 250 มล.
ราคาปกติ 250 บาท
ราคาสมาชิก 220 บาท

แอนตี้ แดนดรัฟฟ์ แชมพู

แอนตี้ แดนดรัฟฟ์ แชมพู

คุณประโยชน์ :
แชมพูทำความสะอาด และ ป้องกันรังแค ปกป้องหนังศรีษะจากเชื้อแบคทีเรียอันก่อให้เกิดรังแค ควบคุมการทำงานของต่อมไขมัน ลดอาการระคายเคืองของหนังศรีษะ เหมาะกับทุกสภาพเส้นผม

ส่วนประกอบสำคัญ :

D - Panthenol : อีกรูปแบบหนึ่งของวิตามินบี 5 ซึมซาบลงถึงรากผมอย่างล้ำลึก เพื่อบำรุงหนังศรีษะ ช่วยซ่อมแซมเส้นผมที่ฉีกขาด เปราะบาง ผมแตกปลาย หรือถูกทำลาย จากการตกแต่งทรงผม ช่วยให้เส้นผมอุ้มน้ำได้ดีขึ้น เพิ่มความยืดหยุ่น และสปริงให้กับเส้นผม

Coconut Diethanolamide : ช่วยเคลือบให้เส้นผมเป็นเงางาม และสุขภาพดี ผมไม่พันกัน จัดทรงได้ง่าย

Sodium PCA : ช่วยทำให้เส้นผมอุ้มน้ำได้ดียิ่งขึ้น ระงับอาการคัน และ ระคายเคืองหนังศรีษะ

Triclosan : ทำลายเชื้อแบคทีเรีย สาเหตุของการเกิดรังแค บนหนังศรีษะ

Chamomile Extract : สารสกัดจากดอกชาโมมาย มีคุณสมบัติในการบำรุงรากผม และ หนังศรีษะ ลดการระคายเคืองของหนังศรีษะ ทำให้โครงสร้างของเส้นผมแข็งแรง

Sebum Regulator : รังแคโดยมากมีสาเหตุมาจาก การที่ต่อมน้ำมันบนหนังศรีษะผลิตน้ำมันมากไปอย่างผิดปกติ sebum regulator จะช่วยให้ต่อมน้ำมันบนหนังศรีษะ ทำงานเป็นปกตินอกจากนี้ยังช่วยให้รากผมแข็งแรง และกำจัดเซลล์ที่ตายแล้วบนหนังศรีษะ

จุดเด่นที่แตกต่าง :
ใช้ได้ทั้งแง่ของการรักษา และ การป้องกัน อาการคันศรีษะ หนังศรีษะมัน และ มีรังแค

วิธีใช้ : ใช้ทำความสะอาดเส้นผม สระได้บ่อยครั้งเท่าที่ต้องการ

ขนาดบรรจุ : 250 มล.
ราคาปกติ 375 บาท
ราคาสมาชิก 300 บาท

พบหนทางป้องกันโลหิตอุดตัน

พบยาป้องกันหัวใจวาย เกล็ดเลือดเป็นตัวการของเลือดอุดตัน [28 ม.ค. 52 - 00:32]

นักวิทยาศาสตร์ได้พบหนทางป้องกันโลหิตอุดตัน อันเป็นสาเหตุของหัวใจวาย ซึ่งกำลังเป็นมัจจุราชเฉียบพลันอยู่ในปัจจุบันได้แล้ว

วารสารทางวิชาการ คลินิกคอล อินเวสติเกชั่นที่ สหรัฐฯรายงานว่า นักวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยบริสตอลแห่งอังกฤษ ได้พบในการศึกษากับหนูทดลองว่า โปรตีนที่มีชื่อว่าพีเคซี อัลฟา เป็นตัวการสำคัญร่วมกับเกล็ดเลือด ทำให้เลือดแข็งตัวเป็นก้อน เหตุที่ร่างกายทำให้เลือดจับเป็นก้อน ก็เพื่ออุดตันเส้นเลือดเมื่อเกิดบาดแผล แต่หากเผอิญเกิดไปจับตัวกันเข้า ในหลอดเลือดไปสู่หัวใจ ก็อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ แค่ในเมืองน้ำชาเพียงชาติเดียว ปีหนึ่งๆเหตุหัวใจวายทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 146,000 ราย

ทุกวันนี้ แม้จะมียาบางขนานที่มีสรรพคุณป้องกันเลือดจับตัวแข็ง อย่างเช่น แอสไพริน แต่ก็ยังมีข้อเสียอาจทำให้เลือดหยุดยากในบางราย

ศาสตราจารย์อลาสแตร์ หัวหน้าคณะนักวิจัยกล่าวว่า เรา พบว่าโปรตีน พีเคซี อัลฟา เป็นตัวคอยควบคุมให้เกล็ดเลือดมีความเหนียวเกาะติดกัน หากว่าขจัดมันออกเสีย ก็จะทำให้เลือดไม่อาจจับตัวกันได้ ที่สำคัญพอกัน

และก็น่าประหลาด ก็คือเราก็พบพร้อมกันด้วยว่า หากขจัดโปรตีนออกไปได้ จะป้องกันไม่ให้เลือดหยุดยากได้อย่างไรและเสริมว่า ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะผลิตยานี้ออกขาย แต่เราก็อดตื่นเต้นไม่ได้ที่พบว่าได้ก้าวไปถูกทางแล้ว”.

นั่งให้ถูกท่า หน้าคอมพิวเตอร์

นั่งให้ถูกท่า หน้าคอมพิวเตอร์ [31 ม.ค. 52 - 00:49]

คน ทำงานในออฟฟิศสมัยใหม่ทุกวันนี้ แต่ละวันมักจะหมดเวลาไปกับการนั่งยื่นคอจ่ออยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ขณะที่มือก็คลิกเมาส์ กันเป็นระวิง ชั่วโมงแล้วชั่วโมงเล่าจนถึงตอนเย็นลุกจากโต๊ะก็พบว่าปวดเมื่อยไปทั่วตัว

นั่น ย่อมแสดงว่ามีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้นจากการทำงานเสียแล้ว ลองมาดูคำแนะนำดีๆ จากสมาคมศัลยศาสตร์กระดูกอเมริกา ที่บอกถึงวิธีการช่วยลดอาการเจ็บปวดและไม่ สบายเนื้อตัวจากการใช้คอมพิวเตอร์ โดยบอกถึงการจัดท่านั่งมาเป็นลำดับตั้งแต่ศีรษะจดเท้ากันเลยทีเดียว

เริ่มจากต้องนั่งตัวตรง วางแนวให้หูทั้ง สองข้างขนานกับหัวไหล่และไหล่ทั้งสองข้างตั้งตรงขนานกับแนวสะโพก

มา ถึงช่วงแขนนั้นก็ให้ปล่อยต้นแขนตามสบายและให้ดึงมาแนบลำตัวเข้าไว้ ควรวางมือและข้อมือให้ยื่นตรงออกไปข้างหน้าตามแนวแขน สำหรับมือและนิ้วนั้น ก็ให้ปล่อยตามสบาย เมื่อพิมพ์หรือคลิกเมาส์หมั่นหาเวลาพักบ่อยๆ และยืดคลายมือ กับนิ้วเป็นระยะๆด้วย

ส่วนเรื่องสายตาก็สำคัญต้องพักสายตาด้วยการมองไปที่อื่นนอกจากหน้าจอคอมพิวเตอร์บ่อยๆ ทั้งต้องพยายาม

จัดตำแหน่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้มีแสงสะท้อนให้น้อยที่สุด

ตำแหน่ง ของหน้าจอคอมพิวเตอร์ควรวางให้ห่างจากตัวเราประมาณ 1 ช่วงแขน และอยู่ในระดับพอดีกับสายตาเพื่อจะได้ไม่ต้องแหงนคอตั้งบ่า หรือก้มหน้าจนเกินไปเมื่อมองหน้าจอ.


ทางลัดเพื่อหุ่นดี มีจริงหรือ


ทางลัดเพื่อหุ่นดี มีจริงหรือ เป็นคำถามที่ต้องตอบกันบ่อยๆ

ยาลดความอ้วน มีกี่ประเภท อันตรายหรือไม่
หลักที่สำคัญของการลดความอ้วน จำเป็นอย่างยิ่งต้องควบคุมอาหารและออกกำลังกาย สำหรับยาลดความอ้วนคือ การเอาสารเคมีไปออกฤทธิ์กับร่างกายให้ทำงานผิดไปจากเดิม แพทย์จำนวนไม่น้อยไม่ยอมใช้ การจะใช้ยามีข้อพึงจำไว้ว่า ถ้าไม่อ้วนจริง อย่าใช้ เพราะปัจจุบันมีบางคนน้ำหนักเพียง 40-50 กก. ก็มักคิดว่าตัวเองอ้วน แล้วริเริ่มไปใช้ยาเข้า ส่วนมากเป็นพวกวัยรุ่นใจร้อน เห่อตามกระแสนิยม จะเกิดผลร้ายมากกว่าผลดี

ถึงแม้อ้วนจริง ถ้าใช้ก็ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์ ซึ่งที่ถูกต้องแพทย์ต้องตรวจร่างกายให้รอบคอบว่าไม่มีข้อห้ามอื่นๆ และต้องตอกย้ำหลักออกกำลังกายและคุมอาหารแก่ผู้ป่วย

การเร่งลดความอ้วนด้วยยา โดยเฉพาะที่จัดเป็นยาชุด ประกอบด้วยยา 6 ชนิดคือ ยาเร่งความเครียดและเพิ่มความกดดันแก่สรีระร่างกาย ซึ่งก็คือยาบ้าในรูปแบบหนึ่ง กินควบกับยานอนหลับ ยาระบาย ยาขับปัสสาวะ ยาเร่งไทรอยด์ และยากดการเต้นหัวใจ อาจเกิดผลลดเร็ว แต่เมื่อเลิกยา น้ำหนักจะสวิงขึ้นเร็วมารู้ตัวอีกทีเมื่อน้ำหนัก 100 กก. ถึงตอนนั้นแล้วร่างกายจะเสียศูนย์ไปหมด ลดยากอย่างยิ่ง มีแต่จมจ่อมในความทุกข์เพราะน้ำหนักเกิน

ยาเหล่านี้ยังออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ทำให้เกิดปัญหาทางอารมณ์และจิตใจอีกมากมาย แถมหัวใจ ไทรอยด์ กระเพาะลำไส้ และไตจะปั่นป่วนรวนเรไปหมด

ยาลดความอ้วนชนิดที่ปลอดภัยกว่า ใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์มีอยู่ 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นยาขัดขวางการดูดซึมไขมัน พอช่วยได้ในการคุมน้ำหนัก แต่ไม่ถึงกับลดความอ้วน กลุ่มที่สองเป็นยาลดความอยากอาหารและเร่งการเผาผลาญอาหาร เกิดผลช้าๆในแง่ของการคุมน้ำหนัก แต่ก็ต้องระวังการใช้ในคนความดันเลือดสูง โรคหัวใจ ซึ่งคนอ้วนจริงจำนวนไม่น้อยก็มีปัญหาโรคเหล่านี้อยู่

อาหารลดน้ำหนักชนิดซองชง ใช้กินแทนมื้ออาหาร ได้ผลหรือไม่
อาหารชนิดซองชงที่ทำอย่างมีหลักวิชา เป็นการตวงวัดสารอาหารให้กินพออิ่ม มีกากใย และเติมแร่ธาตุเข้าไปเพื่อว่าผู้กินจะไม่ขาดสารอาหาร
อาจช่วยให้ลดช้าๆได้ แต่ในทางปฏิบัติใครจะมานั่งกินตลอดทั้งวัน หรือกินทุกวัน จะน่าเบื่อหน่ายจนไม่อาจปฏิบัติจริงได้ นอกจากใช้ชั่วคราว โดยกินแทนอาหารสักมื้อหนึ่ง ส่วนอีก 2 มื้อกินอาหารปกติที่ควบคุมให้ดี อีกประการหนึ่งวิธีนี้ขัดต่อหลักธรรมชาติแน่ เพราะแม้วิทยาการจะก้าวหน้าเพียงใด ก็ไม่สามารถสกัดสารจำเป็นต่อร่างกายได้หมดทุกชนิด ถ้ากินแบบนี้นานๆก็จะได้สารอาหารไม่ครบอยู่ดี

Chitosan หรือสารสกัดจากเปลือกปูซับไขมันได้จริงหรือ ช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือไม่


สารตัวนี้ขายตามแนวคิดที่ว่า มันสามารถจับไขมันได้ และพิสูจน์ให้เห็นจริงได้ คือเอาสารนี้ใส่ลงในน้ำมัน ก็จะจับน้ำมันรวมไว้เป็นก้อน แต่ข้อจำกัดก็คือ สารนี้ 1 กรัมจะจับน้ำมันได้ 4 กรัมเท่านั้น ถ้ามื้อนั้นกินไขมันเข้าไปมากกว่านั้นก็จับไว้ไม่อยู่ อีกประการหนึ่งในร่างกายของเราจริงๆ แต่ละมื้ออาหารก็จะมีผักบ้าง ผลไม้บ้างปะปนกันอยู่ในท้อง ถ้าสารนี้ไม่ได้เจอกับน้ำมันโดยตรงก็ไม่สามารถจับอะไรไว้ได้ ดังนั้นถ้าบอกว่าสารนี้ช่วยลดการดูดซึมไขมันได้บางส่วน ก็เป็นไปได้ แต่ไม่ควรถือว่าลดน้ำหนักโดยตรง


ส้มแขก ช่วยลดน้ำหนักได้หรือไม่
สารในส้มแขกออกฤทธิ์ทางชีวเคมีคือ ยับยั้งการเปลี่ยนแป้งเป็นไขมัน ซึ่งพิสูจน์ได้ในหลอดทดลอง แต่ก็อีกนั่นแหละ การที่สารนี้จะออกฤทธิ์ในร่างกายได้ถึงขนาดนั้น ต้องมีปริมาณมากและในสภาวะที่เหมาะสม ดังนั้นถ้าบอกว่าสารนี้ช่วยคุมน้ำตาลน่าจะมีผลที่ดีกว่า การจะใช้เพื่อลดน้ำหนัก


บุกหรือกลูโคแมนแนนช่วยลดน้ำหนักได้หรือไม่

ก่อนอื่นต้องรู้ว่าบุกมีทั้งหมด 90 กว่าสายพันธุ์ ต้องใช้สายพันธุ์ที่ถูกต้อง แถมต้องระวังว่าในบุกเองก็มีสารที่เป็นพิษ ซึ่งต้องสกัดออกไปเสียก่อน กลูโคแมนแนนในบุกออกฤทธิ์โดยจับตัวกับน้ำ เกิดเป็นวุ้นที่ปริมาณมากกว่าเดิม 10 เท่า การใช้จึงต้องกินบุกพร้อมกับน้ำแก้วใหญ่ๆแล้วรอ 30 นาทีให้พองตัวเสียก่อน จึงค่อยกินข้าว มีผลทำให้เราอิ่มและกินข้าวน้อยลง ความเป็นวุ้นของบุกยังช่วยเคลือบผิวกระเพาะลำไส้ ทำให้ดูดซึมสารอาหารน้อยลง พึงจำไว้ว่า ถ้ากินบุกแล้วไม่กินน้ำ จะเกิดผลร้ายคือ ทำให้ท้องผูกอย่างแรง

บุกพอจะใช้ควบคุมน้ำหนักได้ แต่ไม่ใช่ลดน้ำหนัก ที่ถูกต้องก็ยังต้องคุมอาหารและออกกำลัง

การกินข้าวแล้วล้วงคอให้อาเจียน ควรทำหรือไม่ มีอันตรายอย่างไร

นี่เป็นปัญหาใหญ่ที่กำลังแพร่ระบาดให้หมู่เยาวชนจนเป็นที่น่าห่วงใย มีวัยรุ่นอยู่คนหนึ่ง น้ำหนัก 42 กก.ส่วนสูง 165 ซม. ซึ่งควรถือว่าต่ำกว่าเกณฑ์อยู่แล้ว เกณฑ์ปกติในการวัดความอ้วนผอม ถือเอาค่า BMI หรือดัชนีมวลของร่างกาย มีสูตรว่า

BMI = น้ำหนัก (กิโลกรัม) /ส่วนสูง (เมตร)2

BMI < bmi =" 20-25"> 25 ถือว่าท้วม, BMI > 30 ถือว่าอ้วน

เด็กวัยรุ่นคนนี้ไม่อ้วนแน่ แต่มาหาแพทย์เพราะกลุ้มใจเรื่องความอ้วน เพราะเดิมทีน้ำหนักเพียง 37 กก.เท่านั้น คนที่มีลักษณะเช่นนี้กำลังมีปัญหาทางด้านจิตผิดปกติ และกำลังระบาดมากในหมู่วัยรุ่นนักเรียนนักศึกษาไทยทุกวันนี้ ต้องรู้ว่าการล้วงคอให้อาเจียน สักครู่ก็จะหิวแล้วกินใหม่ ล้วงคออีก สักหลายๆครั้งก็จะติดเป็นนิสัย ต่อไปพอกินก็อาเจียนออกโดยอัตโนมัติ เรียกว่าโรค Bulemia พวกนี้มีอัตราค่อนข้างสูงที่ถึงกับฆ่าตัวตายถึง 30% ดังนั้นพ่อแม่ถ้าเห็นลูกกินอาหารสักครู่ก็ไปเข้าห้องน้ำ พึงสังเกตให้ดีและแก้ไขให้ทันเหตุการณ์


พริกไทยดำและชาเขียวลดน้ำหนักได้หรือไม่


พริกไทยมีสารแคบไซซินช่วยเร่งอัตราเผาผลาญร่างกาย แต่ต้องใช้ปริมาณสูงมากถึง 800 มก.ต่อครั้งซึ่งระดับนั้นเป็นอันตรายกับเยื่อบุกระเพาะอย่างรุนแรง ชาเขียวมีสารต้านอนุมูลอิสระแต่ไม่น่าถึงกับลดน้ำหนักได้



ฝังเข็มลดความอ้วน มีจริงหรือไม่

จุดเข็มบางจุดช่วยเพิ่มอัตราเผาผลาญ บางจุดช่วยจิตใจสงบ อาจใช้ควบขณะควบคุมอาหาร แต่การฝังเข็มตรงไหนลดส่วนนั้น แถมแอบจ่ายยาลดความอ้วนด้วย เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้

ดูดไขมัน กระตุ้นผิวหนังด้วยไฟฟ้า นวดด้วยเครื่องปั๊มสูญญากาศช่วยลดน้ำหนักหรือไม่

ดูดไขมันเอาไขมันออกได้ครั้งละไม่เกิน 1 กก. แล้วก็กินกลับคืนมาใหม่ นวดด้วยเครื่องสูญญากาศช่วยขับน้ำ อาจช่วยปรับรูปร่างได้ชั่วคราว ไม่ควรถือเป็นวิธีลดน้ำหนัก กระตุ้นผิวหนังด้วยไฟฟ้าอาจเกิดอันตรายเพราะไฟฟ้ารั่ว ผิวไหม้ กล้ามเนื้อช้ำ

ผู้รักสุขภาพพึงรู้ไว้ว่า ทางลัดเพื่อหุ่นดีนั้น มีจริง แต่ไม่จีรังยั่งยืน แถมเกิดอันตรายสารพัด เพราะที่แท้แล้วตัวตนของเราเป็นผลพวงของสิ่งที่เรากิน สิ่งที่เราคิด และสิ่งที่เราปฏิบัติ